xs
xsm
sm
md
lg

โรงงานว้าเครือหงปัง-นิคมฯ พม่าพ่นพิษ! ส่งกลิ่นคลุ้งข้ามฝั่งไทยไกล 4 กม. เหม็นตลบ 7 หมู่บ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ขอบคุณภาพจาก Supphasan Poomchaiya กลุ่มชุมชนแม่สาย-เจ้าหน้าที่ไทยหลายหน่วยงานลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีกลิ่นเหม็นที่ลอยข้ามฝั่งจากท่าขี้หล็ก กระทบชาวแม่สายอย่างน้อย 7 หมู่บ้าน
เชียงราย - ชาวแม่สายอย่างน้อย 7 หมู่บ้านตลอดแนวชายแดนทนไม่ไหว..เร่งรวมรายชื่อร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาโรงงานว้าแดงเครือหงปัง ในเขตนิคมฯ ท่าขี้เหล็ก เมียนมา ส่งกลิ่นคลุ้งข้ามฝั่งไทยไกลไม่ต่ำกว่า 4 กม. เหม็นตลบอบอวลทุกคืน


คืนที่ผ่านมา (31 ต.ค. 65) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.แม่สาย จ.เชียงราย และนางอุบล ใจวรรณะ นายกเทศมนตรี ต.แม่สายมิตรภาพ พร้อมด้วยทหารกองกำลังผาเมือง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.แม่สาย ฯลฯ ได้ลงพื้นที่ชายแดนบ้านสันผักฮี้ บ้านป่าซางงาม บ้านเวียงหอม บ้านสันทราย บ้านเหมืองแดงใต้ บ้านปิยะพร และบ้านสันมะ ที่ติดกับลำน้ำสายชายแดนไทย-เมียนมา ฝั่งตรงข้าม จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา

เนื่องจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามักมีกลิ่นเหม็นโชยมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านในช่วงเวลาตั้งแต่ประมาณ 20.00 น.ทุกคืน เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 1-2 เดือนแล้ว

จากการตรวจสอบตามข้อร้องเรียน พบว่ากลิ่นดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ หรือเป็นกลิ่นขยะหรือการเผาไหม้ของขยะ แต่คล้ายกลิ่นถ่านหินหรือสารเคมีที่เกิดจากการเผาไหม้ในโรงงานอุตสาหกรรม และมีรัศมีโชยข้ามฝั่งจากชายแดนเข้ามาในเขตไทยประมาณ 4 กิโลเมตรทุกคืน และจะมีกลิ่นที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเวลากลางดึก จนทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทั้ง 7 หมู่บ้านดังกล่าวมีอาการแสบจมูก วิงเวียนศีรษะ บางรายปวดศีรษะ

ล่าสุดชาวบ้านในแต่ละหมู่บ้านจึงรวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอต่อเทศบาล ต.แม่สายมิตรภาพ และที่ว่าการ อ.แม่สาย เพื่อขอให้หน่วยประสานงานชายแดน คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น (Township Border Committee : TBC) ไทย-เมียนมา แจ้งต่อฝ่าย จ.ท่าขี้เหล็ก ให้ได้รับทราบและแก้ไขไม่ให้เกิดกลิ่นขึ้นอีก

แต่เบื้องต้นสำนักงานสาธารณสุข อ.แม่สายได้แจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย และศูนย์อนามัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง


รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ปัจจุบันกลุ่มบริษัทหงปังซึ่งเป็นกลุ่มทุนหลักของชนกลุ่มน้อยว้าแดงที่ปกครองพื้นที่เขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ได้ให้บริษัทหลอยสามซองฯ ซึ่งอยู่ในเครือเข้าไปก่อสร้างโรงงานในพื้นที่บ้านห้องลึก จ.ท่าขี้เหล็ก ติดกับ อ.แม่สาย จำนวน 2 แห่ง เป็นโรงงานยางพาราแผ่นและโรงงานแต่งแร่งแมงกานีส บนพื้นที่ 250 ไร่ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของเขตอุตสาหกรรมที่ทางการเมียนมาได้เวนคืนจากชาวบ้าน 1,500 ไร่ และได้ขนแร่แมงกานีสที่จุดจากเหมืองแร่เมืองโก ซึ่งตั้งอยู่ห่างจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 20 กิโลเมตร และขุดแร่มาตั้งแต่ปี 2550 รวมกว่า 293,408 ตัน มูลค่า 4,519,388 ล้านเหรียญสหรัฐ มาเก็บเอาไว้เพื่อรอขนส่งเข้าสู่ประเทศไทย

นอกจากนี้ยังมีการสร้างโรงงานยางพาราแผ่นเพื่อรองรับผลผลิตยางพาราในรัฐฉานที่มีการปลูกกว่า 217,950 ไร่ เพื่อส่งไปยังประเทศจีน และเหมืองแร่ทองคำพื้นที่บ้านนาไฮหลง เมืองเลน ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมือง จ.ท่าขี้เหล็ก ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 40 กิโลเมตร

ขณะที่ใน จ.ท่าขี้เหล็กก็เคยมีโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน โดยจะนำถ่านหินลิกไนต์ที่พบในเขตติดต่อไทย-เมียนมา ด้าน จ.ท่าขี้เหล็ก-จ.เมืองสาด ส่งป้อนโรงงานขนาด 12 เมกะวัตต์ เพื่อใช้ในโครงการบริษัทสามเหลี่ยมทองคำไฟฟ้าพลังน้ำของกลุ่มบริษัทหงปัง โดยนายพล หม่อง เอ อดีตผู้บัญชาการทหารบกของเมียนมา เคยไปวางศิลาฤกษ์โครงการเมื่อปี 2543 แต่เนื่องจากมีการต่อต้านจากชาวบ้านในฝั่งไทยด้าน อ.แม่สาย ที่กังวลเกี่ยวกับมลพิษ ทำให้ทางประเทศเมียนมายกเลิกโครงการนี้ไป

อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างเขตนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ของกลุ่มว้าก็ยังคงมีการดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการรื้อฟื้นโรงไฟฟ้าถ่านหินขึ้นมาอีกครั้งหรือไม่








กำลังโหลดความคิดเห็น