อุบลราชธานี-หนุ่มคลั่งแทงชาวบ้านตาย 2 เจ็บ 2 แค่ถูกถามเป็นคนจุดประทัดเสียงดังหรือเปล่า ขณะที่มือแทงก็ถูกฝั่งตรงข้ามยิงเจ็บสาหัส ถูกจับและอายัดตัว แจ้งข้อหาทั้งสองฝ่ายฆ่าผู้อื่น และพยายามฆ่า ติดคุกหัวโต
ดึกวานนี้ (29 ต.ค.) ร.ต.อ.ภูริทัต ครองยุทธ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งมีการทำร้ายและฆ่ากันตายหน้าร้านค้าสหกรณ์ภายในชุมชนบ้านท่าไห หมู่ 2 ตำบลท่าไห อำเภอเขื่องใน จึงนำกำลัง พร้อม พ.ต.อ.สุรวิทย์ โยนจอหอ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเขื่องใน, พ.ต.อ.ชาญชัย อินนรา ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี นำชุดสืบสวนตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบกองเลือดบริเวณถนนและบริเวณหน้าร้านค้าของสหกรณ์หมู่บ้าน และยังพบกระสุนปืนขนาด .38 ที่ยังไม่ได้ยิงจำนวน 5 นัด มีดทำครัว 1 เล่ม เศษขวดเบียร์แตก แว่นตา โทรศัพท์ รองเท้าของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และทราบว่า มีพบผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้รวมทั้งหมด 4 คน เจ้าหน้าที่กู้ชีพ 1669 นำตัวส่งโรงพยาบาลเขื่องในให้แพทย์รักษา
ต่อมามีผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 2 คน คือนางสาวจิตราภรณ์ บุญชาญ อายุ 37 ปี ถูกแทงที่ช่องท้องขวา และนายเดชา ถาวรพัฒน์ อายุ 32 ปี ถูกแทงใต้ราวนมซ้าย ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 คน คือนายอมรฤทธิ์ เต็มภิญโญเกียรติ อายุ 26 ปี มือมีดถูกยิงด้วยกระสุนปืน .38 บริเวณชายโครงขวา 1 นัด อาการสาหัส และนายเบลลี่ อายุ 84 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่เข้าไปห้ามกลุ่มที่ทะเลาะวิวาท ถูกแทงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ฝ่ามือ อาการปลอดภัยดี
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับตัวนายจักรี ระดาบุตร อายุ 24 ปี ชาวบ้านที่ร่วมก่อเหตุนำตัวมาสอบสวน โดยนายจักรี ระดาบุตร เปิดเผยว่า วันนี้มีงานบุญกฐินวัดศรีโพธิ์ชัย บ้านท่าไห ระหว่างนั้น กลุ่มคนตายและคนบาดเจ็บ นั่งดื่มเบียร์ เหล้า อยู่บริเวณหน้าร้านค้าของสหกรณ์ นายอมรฤทธิ์ คนเจ็บที่ถูกตนยิง ได้เดินเข้ามาขอซื้อบุหรี่ที่ร้านค้า ที่พวกตนนั่งกันอยู่
จังหวะนั้นนายศราวุฒิ แฟนของนางสาวจิตราภรณ์ ได้เอ่ยปากถามว่า เมื่อวานนายอมรฤทธิ์ ได้จุดประทัดส่งเสียงดังในหมู่บ้านหรือเปล่า ซึ่งคู่กรณีก็ยอมรับ จนเกิดปากเสียงทะเลาะกับนางสาวจิตราภรณ์ และนายเดชา เพื่อนนายศราวุฒิ ทำให้นายอมรฤทธิ์ไม่พอใจชักมีดปลายแหลมยาวประมาณ 5 นิ้ว ออกมาจ้วงแทงนางสาวจิตราภรณ์ และนายเดชา จนกระทั่งทั้งคู่ล้มฟุบลงกับพื้นที่หน้าร้าน
ขณะที่นายเบลลี่ ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพยายามเข้าห้าม ก่อนจะถูกนายอมรฤทธิ์ใช้มีดแทงถูกฝ่ามือ และพุ่งตรงเข้ามาจะแทงนายจักรี อีกคน ทำให้นายจักรี ล้วงเอาปืนพกสั้นแบบไทยประดิษฐ์บรรจุที่ละนัดขนาด .38 ที่พกมาป้องกันตัว ยิงเข้าใส่นายอมรฤทธิ์ 1 นัด หลังถูกยิงนายอมรฤทธิ์ ได้วิ่งหนีออกจากร้านไปล้มฟุบกลางถนน
นายจักรี จึงหลบหนีออกจากร้าน ขณะที่ลูกกระสุนปืนที่พกมาในกระเป๋ากางเกงได้หล่นลงพื้น จึงนำปืนไปทิ้งในป่าพงหญ้าข้างทาง ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตามจับได้ เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหานายจักรี พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนนายอมรฤทธิ์ ผู้ก่อเหตุแทงคนจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้อายัดตัวและจะได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และพกพาอาวุธมีดโดยไม่มีเหตุอันควร