อุทัยธานี – ของกลางทั้งปืนสั้น-ปืนยาว ยึดได้เรียงเป็นตับ..ตำรวจอุทัยธานี ระดมกำลังกวาดล้างทั้งเมือง 20 วัน จับคดียาเสพติดกว่า 200 ราย พ.ร.บ.อาวุธปืนเพียบ รวมโจ๋ 15 เลือดร้อนยิงญาติเจ็บ 3 รายด้วย
วันนี้(30 ต.ค.65) พล.ต.ต.สุเมฆ บวรเศวตฉัตร ผบก.ภ.อุทัยธานี ร่วมกับ พ.ต.อ.เกียรติ ศักดิ์ ขอนพุดซา รอง ผบก. และ พ.ต.อ.วชิรนนท์ รัตนวศิษฐ์ ผกก.สภ.เขาบางแกรก แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม คดียาเสพติด อาวุธปืน คดีตามหมายจับ และคดีที่น่าสนใจเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน ของตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี ตามนโยบาย พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสส์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ. 6 ที่สั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดทุกแห่ง ดำเนินการปราบปรามจับกุมอย่างจริงจัง ให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
โดยในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งประกอบไปด้วย สถานีตำรวจ 11 แห่ง และกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดฯ ได้ร่วมกันระดมกวาดล้างจับกุม ตั้งแต่วันที่ 10 - 29 ตุลาคม 2565 รวม 20 วัน สามารถจับกุมความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 234 ราย ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน 38 ราย อาวุธปืน 38 กระบอก และจับกุมบุคคลตามหมายจับ จำนวน 22 ราย
หนึ่งในคดีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน เกิดขึ้นในเขตพื้นที่ สภ.เขาบางแกรก เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 เวลาประมาณ 22.00 น. เป็นคดีที่เด็กชายอายุ 15 ปี ก่อเหตุพยายามฆ่า โดยใช้อาวุธปืนไม่มีทะเบียน ยิงบุคคลในครอบครัวได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 คน
จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ผู้ก่อเหตุอายุ 15 ปี ทะเลาะวิวาทมีปากเสียงกัน ก่อนผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลุกซองสั้น ขนาด 12 ยิงออกไปยังกลุ่มเครือญาติ จำนวน 1 นัด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 ราย มีอาการปลอดภัยพันขีดอันตรายแล้ว
ต่อมา พนักงานสอบสวน สภ.เขาบางแกรก ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับกุมผู้ก่อเหตุยังศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุทัยธานี เพื่อทำการจับกุม กระทั่งบิดา-มารดา ได้นำตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมด้วยอาวุธปืน เข้ามอบตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาบางแกรก นอกจากนี้ยังมีการสืบสวนขยายผลแหล่งที่มาของอาวุธปืนไม่มีทะเบียน ซึ่งเป็นของกลางที่ใช้ก่อเหตุ เพื่อดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี ยังได้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการป้องกันอาชญากรรมในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง ประจำ 2565 ทั้งเรื่องการจุดประทัด การเล่นพุไฟ การปล่อยโคมลอย และการใช้อาวุธ ปืน ยิงขึ้นฟ้า ที่มักเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี จึงขอให้ทุกอำเภอ หมู่บ้าน และผู้ปกครองทุกพื้นที่ ให้ช่วยเฝ้าระวัง สอดส่อง การกระทำดังกล่าว เพื่อลดความเสี่ยงทั้งในชีวิตและทรัพย์สินที่อาจจะเกิดขึ้น