อุดรธานี - ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหา "เสี่ย ป." นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หื่นแห่งเมืองอุดร ครอบครองสื่อลามกอนาจาร และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง หากมีความผิดอื่นหลังสอบสวนเสร็จก็จะแจ้งเพิ่ม ยังไร้เงาญาติยื่นประกันตัว
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคม. เจ้าหน้าที่ พมจ.เข้าค้นบ้านของเสี่ย “ป.” หรือนาย นายปิติ วณิชวรนันท์ อายุ 55 ปี ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่บ้านหลังหนึ่ง ในซอยสามัคคี 6 ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อเวลา 19.00 น.ของคืนวันที่ 26 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่พบหลักฐานในการกระทำผิดในคอมพิวเตอร์จำนวนมาก จึงได้ยึดไว้ตรวจสอบอีกหลายรายการทั้งโทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊ก และการ์ดกล้องอีกจำนวนมาก พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาเบื้องต้นครอบครองสื่อลามกอนาจาร
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (27 ต.ค. 65) ที่ สภ.เมืองอุดรธานี สหวิชาชีพได้พาตัวเด็กหญิง 6 คน มาสอบปากคำเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีความ และในวันเดียวกัน นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือเฮียเปี๊ยก เจ้าของเพจ "เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย" ไดพานายสม อายุ 51 ปี (นามสมมติ) พ่อของ น.ส.ต่าย หนึ่งในผู้เสียหาย มายื่นหนังสือเพื่อคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน
นายภานุมาศเปิดเผยว่า การยื่นคัดค้านประกันตัวในวันนี้ เนื่องจากผู้ปกครองคาดว่าผู้ต้องหาได้เก็บภาพหรือเก็บคลิปลามกอนาจารที่ได้ถ่ายไว้นอกเหนือจากคอมพิวเตอร์ที่ตำรวจตรวจยึดไว้ ผู้เสียหายเกรงว่าหากผู้ต้องหาได้ประกันตัวออกมาแล้วเกิดความโกรธแค้น อาจนำคลิปหรือภาพโพสต์ในสื่อโซเชียล เกรงว่าเด็กที่ถูกกระทำจะได้รับความอับอาย จึงเป็นเหตุให้มาคัดค้านการประกันตัวในครั้งนี้
ด้าน พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวที่ห้องขัง คาดว่าจะนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมในบ่ายวันนี้ และจะฝากขังวันพรุ่งนี้ ตอนนี้ตำรวจได้แจ้ง 2 ข้อหา คือ ครอบครองสื่อลามกอนาจาร และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง ทั้งนี้ หากมีความผิดเพิ่มหลังการสอบสวนก็จะแจ้งข้อหาเพิ่ม ตอนนี้ยังไม่มีญาติมาประกันตัวแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบหลักฐานที่ยึดมาเบื้องต้นพบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายจำนวนมาก ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งกู้ไฟล์ที่ไม่สมบูรณ์ในเครื่อง
ด้านแม่ของนางสาวตุ๊ก อายุ 15 ปี เล่าว่า หลังรู้ว่าลูกสาวตนไปอยู่ในบ้านหลังนั้นรู้สึกตกใจไม่คิดว่าลูกจะไปอยู่แบบนั้น ซึ่งเราก็ถามลูกสาวตลอดว่าเคยมีอะไรที่มากกว่านั้นหรือเปล่าลูกสาวก็ตอบว่าไม่เคย ทั้งนี้ดูแลลูกสาวเป็นอย่างดี ก่อนหน้าที่ลูกสาวจะเป็นแบบนี้เขาเป็นคนนิสัยดีไม่ออกไปข้างนอกไม่เที่ยวกลางคืน แต่พอมารู้จักกับเพื่อนและกระทั่งติดเพื่อนจึงเริ่มมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ออกไปเที่ยวกลางคืน จากนี้จะดูแลลูกอย่างเข้มงวดมากขึ้นจะควบคุมไม่ให้ออกไปเวลากลางคืนและจะมีเวลาพาไปเที่ยวให้มากขึ้น
แม่โร่ร้องสื่อลูกสาวหาย
อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวเป็นข่าวขึ้นมาหลังจากเมื่อวันก่อน นางนฤมล อายุ 50 ปี เข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวว่า ลูกสาววัย 14 ปีลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ชื่อน้องนาเดีย (นามสมมติ) ได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันออกพรรษา ติดต่อไม่ได้ หัวใจแม่ร้อนรน จนมาทราบจากเพื่อนของลูกสาวว่า ลูกสาวไปพักที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.บ้านจั่น และขายบริการให้กับเสี่ย ป.คนดังเมืองอุดรธานีที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเสี่ยรายนี้ชอบเปิดบ้านหลังนี้เป็นฮาเร็มรับเด็กผู้หญิงอายุ 13-20 ปี มาร่วมหลับนอนมาขายบริการด้วย
ต่อมาวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ สภ.เมืองอุดรธานี นายภานุมาศ จิตรวศวินกุล เพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ได้พา น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เดินทางไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อเสี่ย ป.รายนี้ โดย น.ส.เอได้แจ้งข้อหา “อนาจาร” ส่วนผู้ปกครองของน้องเอได้แจ้งข้อหา “พรากผู้เยาว์”
หลังจากนั้น เวลา 19.00 น.คืนที่ผ่านมา พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้นำหมายศาล จ.อุดรธานี เลขที่ ค 186/2565 พร้อม ตร.ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี, เจ้าหน้าที่ฯ จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อุดรธานี หรือ พมจ. เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่ง ซอยสามัคคี 6 หมู่ 1 ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว พื้นที่บ้านมากกว่า 100 ตารางวา
เมื่อเจ้าหน้าที่ฯ ไปถึงได้อ่านหมายศาลให้เจ้าของบ้านทราบและขอเข้าไปตรวจค้นภายในบ้าน ปรากฏว่าเจ้าของบ้านเมื่อเจอเจ้าหน้าที่ฯ ถึงกับช็อก ตรวจสอบภายในบ้านพบเด็กที่เป็นหญิงสาวอายุไม่เกิน 20 ปี 4 คน เจ้าหน้าที่ พมจ.อุดรธานีได้นำตัวขึ้นรถตู้ไปทันที ทั้งตรวจพบอีกว่าภายในห้องนอน มีเตียงนอนปูด้วยผ้าปูที่นอนสีชมพู รอบๆ ห้องนอนมีไฟสตูดิโออยู่รอบห้อง และมีถุงยางอนามัยด้วย
