MGR Online - อธิบดีดีเอสไอ เผย จัดตั้ง 3 ศูนย์ เพื่อรองรับภารกิจให้ครอบคลุม พร้อมทั้งยกระดับมาตรฐานการสืบสวนสอบสวนให้ทัดเทียม เอฟบีไอ
สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบให้ออกกฎกระทรวงกำหนดคดีพิเศษเพิ่มเติม โดยมอบหมายให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับผิดชอบการสืบสวนสอบสวนคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด คดีความผิดตามกฏหมายว่าด้วยการห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา หรือหนี้นอกระบบ และเรื่องทำความผิดเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก ตามประมวลกฎหมายอาญา ให้อยู่ภายใต้การดำเนินการตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ซึ่งจะต้องมีการกำหนดรายละเอียดของความผิด ตามกฎหมายดังกล่าวบางประการให้มาอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษต่อไป
วันนี้ (26 ต.ค.) นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงมีคำสั่งให้จัดตั้งศูนย์ โดยมีฐานะเทียบเท่ากอง ที่มีสายงานบังคับบัญชา ขึ้นตรงต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จำนวน 3 ศูนย์ ได้แก่ 1. ศูนย์คดียาเสพติด มีหน้าที่ เพื่อป้องกัน ปราบปราม สืบสวน และสอบสวนคดีพิเศษ ตามประมวลกฎหมาย ยาเสพติด ฯลฯ 2. ศูนย์คดีละเมิดทางเพศเด็ก มีหน้าที่ เพื่อป้องกัน ปราบปราม สืบสวน สอบสวนคดีพิเศษ ที่เกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก ตามประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ และ 3. ศูนย์ป้องกันและปราบปรามหนี้นอกระบบและอำนวยความเป็นธรรม มีหน้าที่ ป้องกัน ปราบปราม สืบสวน และสอบสวนคดีพิเศษ เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังได้มีการปรับรูปแบบการทำงานเพื่อให้ทุกกองคดีมีอำนาจหน้าที่ดำเนินคดีฟอกเงินทางอาญาที่มี คดีความผิดมูลฐานในความรับผิดชอบ เพื่อให้สามารถดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได้จัดตั้งศูนย์สืบสวนเส้นทางการเงินและฟอกเงินทางอาญาขึ้นเพื่อสนับสนุนการดำเนินคดีฟอกเงินทางอาญา ให้กับหน่วยงานต่างๆ และยังมอบหมายให้กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ไปศึกษารูปแบบการทำงานระบบการตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐานงาน ของสำนักงานสอบสวนกลาง ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางการปรับปรุงกระบวนการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ
ทั้งนี้ การดำเนินงานดังกล่าวเป็นไปตามกรอบ แนวทางการขับเคลื่อน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ปีงบประมาณ 2566 กำหนดไว้ 5 ด้าน คือ 1. เน้นการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินในความผิดฐานฟอกเงิน ยึดทรัพย์เพื่อตัดวงจรการกระทำผิด โดยเฉพาะคดียาเสพติด 2. ลดเวลาการสืบสวนสอบสวน โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงานให้มากขึ้น 3.ยกระดับมาตรฐานการสืบสวนสอบสวนให้ทัดเทียมกับ FBI 4. ใช้ soft power ของหน่วยงานเพื่อป้องปรามและอำนวยความยุติธรรม และ 5. ผลักดันให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็น Super กรม