กำแพงเพชร - ตำรวจตามรวบโจ๋แก๊งลำมะโกรก-ก๊วนหลังสวนน้ำ ท้าทายกันผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนใช้อาวุธปืนไล่ยิงกันกลางถนนเลี่ยงเมือง หน้าโรงเรียนอนุบาลกำแพงเพชร-ศาลเจ้าพ่อกวนอู จนชาวบ้านหวาดผวากันทั่ว
วันนี้ (24 ต.ค. 65) พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ รอง ผบช.ภ.6 ได้ลงพื้นที่ติดตามการสืบสวนสอบสวนคดีวัยรุ่น 2 กลุ่มโพสต์เฟซบุ๊กท้าทายและใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่กัน บริเวณถนนเลี่ยงเมือง ย่านโรงเรียนอนุบาลกำแพงเพชร-หน้าศาลเจ้าพ่อกวนอู ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร จนปรากฏเป็นภาพข่าวเมื่อวันที่ 21ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกำแพงเพชร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.กำแพงเพชร จึงได้ร่วมกันสืบสวนหาตัวผู้ กระทำผิด จากการสืบสวนทราบว่าตามวันเวลาเกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นบ้านลำมะโกรก กับกลุ่มวัยรุ่นสวนน้ำ ซึ่งมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนแล้ว ต่างฝ่ายต่างใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความท้าทายกัน จากนั้นได้นัดหมายมาเจอกันบริเวณที่เกิดเหตุ แล้วจึงได้ใช้อาวุธปืนที่ต่างฝ่ายต่างเตรียมมายิงข่มขู่กัน แล้วพากันขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
พล.ต.ต.พิพัฒน์ ชุ่มมณีกูล ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร, พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รอง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร, ผกก.สภ.เมืองกำแพงเพชร, ผกก.สืบสวน ภ.จว.กำแพงเพชร ได้รายงานว่า ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกำแพงเพชร และชุดสืบสวน ภ.จว.กำแพงเพชร ได้ร่วมกันติดตามจับกุมวัยรุ่นที่ก่อเหตุทั้งสองกลุ่ม คือ
1. กลุ่มลำมะโกรก จำนวน 6 คน จับกุมได้ 3 คน หลบหนี 3 คน ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้ขับขี่ไปก่อเหตุ อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ (อีโสก) ไม่มีหมายเลขทะเบียน ได้จำนวน 2 กระบอก
2. กลุ่มหลังสวนน้ำ จำนวน 5 คน จับกุมได้ 3 คน หลบหนี 2 คน ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้ขับขี่ไปก่อเหตุ อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ (ปืนปากกา) ไม่มีหมายเลขทะเบียน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 2 นัด ปืนลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์ ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาดเบอร์ 12 จำนวน 6 นัด อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ (อีโสก) ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 2 กระบอก กระสุนปืน ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด
จากการสอบถามกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุอ้างว่าอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อนเหตุสามารถทำขึ้นมาเองได้ บางคนอ้างศึกษาจากช่องทางสื่อออนไลน์แล้วมาทดลองทำเอง บางคนอ้างเคยเห็นคนรู้จักทำแล้วจำมาทดลองทำบ้าง ส่วนลูกกระสุนปืน ก็นำมาจากเพื่อนๆ คนที่รู้จักกัน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามผู้กระทำผิดอื่นที่ยังหลบหนี ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไว้แล้วนี้ หากการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีการกระทำผิดฐานอื่นก็จะดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงขอฝากผู้ปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ช่วยกันสอดส่องดูแลบุตรหลาน หรือคนในปกครอง หากพบว่ามีพฤติกรรมมั่วสุม รวมตัวกันเป็นกลุ่มแก๊ง กลางคืนไม่หลับไม่นอน หรือมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เป็นนักเลงก่อความเดือดร้อนรำคาญ รวมถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะไม่ควรอย่างอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การก่อให้เกิดอาชญากรรมที่ร้ายแรงอื่นๆ ขึ้นในอนาคตได้ จึงขอให้ทุกภาคส่วนนำปัญหาขึ้นมาวิเคราะห์หาทางแก้ไข เพื่อความสงบสุขของสังคมต่อไป
