บุรีรัมย์ - เลขาธิการฯ อาชีวศึกษาเปิดโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ด้วย “ศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน” บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ อุปกรณ์ทำมาหากินที่ชำรุดเสียหาย พร้อมมอบถุงยังชีพนักเรียน นศ. และชาวบ้าน ที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ถูกน้ำท่วมหนักในรอบ 50 ปี
วันนี้ (23 ต.ค.) ว่าที่ ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานเปิดโครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ที่บ้านพลับ ตำบลสะแก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ โดย ศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน Fix it Center โดยการนำคณะครู อาจารย์ นักศึกษาในสังกัดวิทยาลัยการอาชีพสตึก ออกให้บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ทำมาหากินในครัวเรือนที่ชำรุดเสียหาย รวมถึงรถยนต์ที่ขับลุยน้ำแล้วเครื่องยนต์ดับ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าใช้จ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ทั้งนี้ ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พร้อมด้วยนายวิโรจน์ ทองเรือง ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพสตึก นายกันวลินทร์ เมืองแก้ว นายอำเภอสตึก และคณะผู้บริหารอาชีวศึกษาในพื้นที่ ยังได้นำถุงยังชีพไปมอบแก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนในพื้นที่อำเภอสตึกที่ถูกน้ำท่วมบ้านเรือน เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ประสบภัยด้วย เนื่องจากอำเภอสตึกเป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมหนักในรอบ 50 ปี โดยเฉพาะบ้านพลับ ตำบลสะแก ถูกน้ำท่วมทั้งที่อยู่อาศัย ถนนเข้า-ออกหมู่บ้านจนต้องใช้เรือในการสัญจร และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ซึ่งขณะนี้ก็ยังมีน้ำท่วมถนนและนาข้าวอยู่
ว่าที่ ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ท่านมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ ได้สั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการออกให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทางสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจึงได้มีการตั้งศูนย์อาชีวะช่วยประชาชนขึ้นมา ทั้งมีนโยบายให้อาชีวะทุกจังหวัดได้ตั้งศูนย์อาชีวะช่วยประชาชน โดยภารกิจคือออกสำรวจพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมเพื่อช่วยเหลืออพยพขนย้ายสิ่งของ ประชาชนจากพื้นที่น้ำท่วมขึ้นไปอยู่ที่ปลอดภัย บางจังหวัดก็ให้วิทยาลัยเกษตรฯ เป็นพื้นที่พักพิงของสัตว์เลี้ยง
รวมถึงให้นักศึกษาที่มีความรู้ ความสามารถด้านช่างออกให้บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ทำมาหากินของประชาชนผู้ประสบภัยที่มีสภาพชำรุดเสียหาย ทั้งในช่วงน้ำท่วม และหลังน้ำลดก็ให้สำรวจผลกระทบทั้งบ้านเรือนที่พังเสียหาย และระบบไฟฟ้าใช้การไม่ได้ และออกหน่วยให้บริการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบภัยด้วย
ด้าน นายวิโรจน์ ทองเรือง ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพสตึก กล่าวว่า จากการสำรวจได้มีนักศึกษาในพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมบ้านเรือนในครั้งนี้กว่า 40 ครัวเรือน ซึ่งได้นำถุงยังชีพไปมอบบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว ส่วนการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย ทางวิทยาลัยการอาชีพสตึกได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ออกหน่วยให้บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ทำมาหากินที่ชำรุดเสียหายให้แก่ผู้ประสบภัย ทั้งช่วงน้ำท่วม และหลังน้ำลดก็จะออกให้บริการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง