ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - วิทยาลัยเทคนิคโคราชเปิดตัวต้นแบบ “ระบบประตูป้องกันภัยศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก” นำร่องวิทยาลัยอาชีวะฯ แห่งแรกของประเทศเพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอยโศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู เผยเป็นระบบประตูอัตโนมัติ มีกล้องตรวจจับใบหน้าและสแกนเปิด-ปิด 5 ระบบ ทั้งสแกนนิ้วมือ-กดรหัส-ระบบการ์ด-กุญแจ-ระบบ Application สั่งการด้วยมือถือ ผอ.ยันสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ปกครองได้ เตรียมนำร่องติดตั้งศูนย์เด็กเล็กในโคราช 4 แห่ง
วันนี้ (14 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมกรณีคนร้ายบุกศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู ใช้อาวุธปืนและมีดทำร้ายเด็กเล็กและประชาชนเสียชีวิตจำนวนมากถึง 37 ราย (รวมผู้ก่อเหตุ) เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา ว่าที่ ร้อยตรี ธนู วงษ์จินดา รักษาราชการแทนเลขาธิการ คณะกรรมการการอาชีวศึกษา รับนโยบายตามที่ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ติดตั้งระบบประตูป้องกันภัยให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และกระทรวงมหาดไทยทั่วประเทศ เพื่อคัดกรองบุคคลแปลกหน้าเข้า-ออกในพื้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และโรงเรียนที่สอนเด็กปฐมวัย ซึ่งเป็นกลุ่มอ่อนแอทางสังคม
โดยได้มีการสั่งการให้ผู้อำนวยการวิทยาลัยฯ ในสังกัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ ประสานกับหน่วยการจัดการศึกษาปฐมวัยในจังหวัด สังกัด สพฐ. เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล และเอกชน สำรวจความต้องการจัดตั้งระบบป้องกันภัย ตามบริบทของแต่ละพื้นที่ โดยให้สาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง เช่น ช่างเชื่อม ช่างก่อสร้าง ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างเมคคาทรอนิกส์ และช่างไฟฟ้า จัดทำและติดตั้งระบบป้องกันภัย เพื่อใช้ควบคุมการเข้า-ออก คัดกรองบุคคลแปลกหน้าหรือผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้า-ออกศูนย์ พัฒนาเด็กเล็ก โดยระบบควบคุมความปลอดภัยคุณภาพสูงอาจใช้ระบบสแกนนิ้วมือ สแกนใบหน้า แอปพลิเคชันแจ้งเตือนรูปภาพและข้อความบุคคลเข้า-ออก ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสามารถรับรู้สภาพแวดล้อมและถูกควบคุมได้จากระยะไกล
อีกทั้งจัดทำเหล็กดัดติดตั้งบริเวณประตู หน้าต่างในราคาต้นทุน เพื่อจัดเตรียมความพร้อมอาคารสถานที่ให้มีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ป้องกันการก่อเหตุที่ไม่คาดคิดต่อไป
ทั้งนี้ ได้ประสานให้วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา โดยนายธนภัทร แสงจันทร์ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา และคณะ จะเป็นจังหวัดต้นแบบนำร่องในการออกแบบทดลองระบบป้องกันภัยให้แก่ นักเรียน เด็กเล็ก ในจังหวัดนครราชสีมาก่อน
ล่าสุดวันนี้ (14 ต.ค.) ที่หอประชุมวิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายธนภัทร แสงจันทร์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา พร้อมด้วยรองผู้อำนวยการฯ อาจารย์ นักศึกษาช่างเชื่อม ช่างก่อสร้าง ช่าง อิเล็กทรอนิกส์ ช่างเมคคาทรอนิกส์ และช่างไฟฟ้า ร่วมกันสาธิตการเปิดตัวระบบประตูป้องกันภัยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กนำร่องวิทยาลัยอาชีวศึกษาแห่งแรกของประเทศ
วัตถุประสงค์ 1. เพื่อจัดทำระบบประตูป้องกันภัยให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก, 2. เพื่อคัดกรองบุคคลแปลกหน้าเข้าออกในพื้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก, 3. เพื่อใช้ควบคุมการเข้าออก คัดกรองบุคคลแปลกหน้าหรือผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าออก โดยภายหลังจากนี้ไปใน 1-2 สัปดาห์จะเริ่มดำเนินการในสถานที่ 4 แห่ง ประกอบด้วย 1. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กท้าวสุระซอย 3 อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา, 2. ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสวนหม่อน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา, 3. โรงเรียนอนุบาลวัดสะแก อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา, 4. โรงเรียนอนุบาลวัดทุ่งสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
ทั้งนี้ รูปแบบประตูดังกล่าวเป็นระบบอัตโนมัติป้องกันภัย ประกอบด้วย 1. ประตูบานเปิดอัตโนมัติ, 2. ประตูบานเลื่อน, 3. ประตูบานเปิดคู่อัตโนมัติ, 4. ประตูเหล็กดัดอัตโนมัติ พร้อม 1. กล้องตรวจจับใบหน้า Camera ตรวจจับใบหน้า (เปิด-ปิดประตู), 2. เครื่องสแกน เปิด-ปิด อัตโนมัติ 5 ระบบ โดยยังแบ่งเป็น 2.1 สแกนลายนิ้วมือ, 2.2 กดรหัส, 2.3 ใช้ระบบการ์ด, 2.4 กุญแจ, 2.5 ระบบ Application สั่งการด้วยโทรศัพท์มือถือ
โดยมีเป้าหมาย เป็นต้นแบบ (Model) สำหรับสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ได้นำไปใช้ในการติดตั้งระบบประตูป้องกันภัยให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในเขตพื้นที่ต่อไป
นายธนภัทร แสงจันทร์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา กล่าวว่า เบื้องต้นเราออกแบบประตูก่อน ส่วนหน้าต่างอยู่ระหว่างการออกแบบ ส่วนการเชื่อมต่อระบบข้อมูลเตือนภัยไปยังผู้เกี่ยวข้อง เช่น ผู้อำนวยการ ผู้บริหาร ในการคัดกรองบุคคลแปลกหน้าหรือบุคคลที่มีความเสี่ยงที่เข้าไปในเขตศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสำหรับผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวกับในการจัดการศึกษา ส่วนจะเชื่อมต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจ หรือศูนย์วิทยุ 191 อยู่ระหว่างการออกแบบ การจัดระบบประตูทั้ง 4 แบบนี้เราคิดว่ามีความมั่นคงและเกิดความปลอดภัยพอสมควร
สำหรับในส่วนของวิทยาลัยฯ เรานำร่องเรื่องของต้นแบบในการจัดทำประตูครั้งนี้ เพื่อเป็นแบบให้กับสถานศึกษาอาชีวศึกษาทั่วประเทศได้นำไปใช้ในพื้นที่ของตัวเอง แต่ในส่วนของวิทยาลัยฯ นครราชสีมาจะนำร่องดำเนินการในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 4 แห่งก่อน เรียกได้ว่าเอาวิทยาลัยฯนครราชสีมาเป็นโมเดลก่อน และหลังจากนั้นจะใช้แต่ละวิทยาลัยได้ไปพัฒนาหรือนำไปประยุกต์ต่อยอดให้เข้ากับบริบทของแต่ละแห่ง
"เราคิดว่าระบบนี้น่าจะสร้างความมั่นใจให้แก่ครู บุคลากรการศึกษา โดยเฉพาะผู้ปกครองได้ระดับหนึ่ง ผู้ปกครองก็จะเกิดความมั่นใจว่าลูกหลานก็สามารถที่จะปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่ว่าใครที่จะเปิดประตูเข้าไปได้อย่างง่ายดายแบบที่ผ่านมา ส่วนจะเพิ่มเติมระบบไซเรนนั้นก็ต้องดูแต่ละศูนย์ฯ อีกที แต่เรามีระบบกล้องวงจรปิดจับภาพใบหน้าไว้ที่หน้าประตูอยู่แล้ว ส่วนด้านในก็มีโทรทัศน์เห็นชัดเจน และมีการบันทึกตลอดเวลา" นายธนภัทร กล่าวในตอนท้าย