บุรีรัมย์ - ญาติโวย จนท.รพ.สต.แห่งหนึ่งที่บุรีรัมย์ออกตรวจรักษาผู้ป่วยติดเตียงที่บ้าน แต่ไม่มีความพร้อมลืมอุปกรณ์เป็นประจำ ทั้งเข็ม ที่วัดไข้ เครื่องวัดความดันให้ญาติไปยืม อสม.แทน ทั้งให้คนไข้งดน้ำอาหารรอเจาะเลือดแต่มาล่าช้า ซ้ำร้ายขอลดการเจาะตรวจเลือดจากเดิม 3 เดือนครั้งเป็นปีละครั้ง ที่เหลือขอใช้ผลเลือดเดิม แถมทิ้งเข็มฉีดยาใช้แล้วไว้ให้เก็บเอง ด้าน ผอ.แจงขอโทษและรับจะปรับปรุง
วันนี้ (21 ต.ค.) มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ร้องเรียนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการให้บริการของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) แห่งหนึ่ง โดยระบุข้อความว่า “ขอโทษนะคะ มีเรื่องจะร้องเรียนค่ะ พอดีวันนี้คุณตาที่บ้านมีตรวจเลือดทุก 3 เดือน คุณหมอที่โรงพยาบาลจะมีใบนัดเเละเเจ้งไว้ว่าต้องการเลือดอะไรบ้าง ให้งดน้ำงดอาหาร และให้ทางอนามัยผักหวานมาเจาะเลือด วันที่ 20/10/2565 มีเจาะเลือด คุณหมอให้งดน้ำงดอาหาร-คุณหมอมา 09.00 น. เครื่องวัดความดันไม่ได้เอามา ที่วัดไข้ไม่เอามา คุณหมอบอกว่าเครื่องวัดความดันที่อนามัยมีเเต่เครื่องใหญ่ เอามาไม่ได้ พูดมาได้ไงคะ ??? คนไข้งดน้ำงดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืน คุณหมอให้ป้าที่อยู่เฝ้าไปหาเครื่องวัดความดันมา
และสุดท้ายถามป้าว่า “มีปากกามั้ย หนูไม่ได้เอาปากกามา” ความพร้อมไม่มี ซึ่งการพูดจาแบบนี้ก็เกิดขึ้นหลายครั้งเเล้วค่ะ -แล้วคุณหมอที่อนามัยก็ถามอีกว่า “ขอเจาะเลือดปีละครั้งได้มั้ย” และแนะนำญาติอีกว่า “เอาผลเลือดเดิมได้มั้ย” ซึ่งตรงนี้ คือไม่สมควรพูดตั้งเเต่เเรก และอีกอย่างคุณหมอพูดมาว่า “ไม่มีเวลา คนไข้หนูเยอะ ต้องเดินสายตามหมู่บ้าน คนไข้ติดเตียงตำบลถนนหักเยอะ” หนูอยากถามว่า เขาไม่มีเวร หมุนเปลี่ยนกันเหรอคะ? ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลถนนหักค่ะ ตำบลถนนหัก อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์
เหตุการณ์แบบนี้ การพูดจาเกิดขึ้นหลายครั้งเเล้วค่ะ ครั้งก่อนหน้านี้ก็ลืมเอาเข็มมา ขณะที่มาก็มาประมาณ 9 โมง ทั้งที่คนไข้ก็งดน้ำ งดอาหาร จนสั่น ป้าที่บ้านทนไม่ไหวก็น้ำตาไหล จุกอยู่ที่อกในใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ เพราะมันเกินไปจริงๆ ค่ะ”
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังผู้โพสต์สอบถามรายละเอียดเบื้องต้น ก่อนจะลงพื้นที่ไปยังบ้านผู้ป่วยซึ่งอยู่ที่ตำบลถนนหัก อ.นางรอง พบว่าผู้ป่วยชื่อนายประโยชน์ พรมสมัน อายุ 81 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียงมาประมาณ 7 ปีแล้ว จากอาการป่วยทั้งโรคไขมันในเลือดสูง ความดัน เบาหวาน และเส้นเลือดในสมองตีบ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ต้องมีญาติคอยดูแลตลอด
สอบถาม นางสุรีย์ พึ่งประสพ อายุ 50 ปี ลูกสาวคุณตาที่ป่วยติดเตียง บอกว่า ปกติหมอจะต้องมาเจาะเลือดตรวจทุก 3 เดือน โดยจะมีเจ้าหน้าที่จาก รพ.สต.บ้านผักหวาน มาตรวจวัดไข้ ความดันและเจาะเลือดให้ เมื่อก่อนมีเจ้าหน้าที่ผู้ชายมาตรวจและเจาะเลือดให้ก็ดูแลอย่างดีไม่มีปัญหาอะไร แต่ระยะหลังมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงมาตรวจและเจาะเลือดแทนแต่เวลามาจะชอบลืมอุปกรณ์ บางครั้งก็ลืมเข็ม ลืมที่วัดไข้ ลืมเครื่องวัดความดันแล้วให้ญาติไปยืม อสม.มาให้ ที่สำคัญจะทิ้งเข็มฉีดยาที่ใช้แล้วไว้ให้ญาติเก็บเอง และสิ่งที่รับไม่ได้คือ บอกว่าจะขอเจาะเลือดปีละ 1 ครั้ง จากปกติเจาะ 3 เดือนครั้งเพราะมีงานเยอะ ตอนที่ไม่ได้มาตรวจจะขอใช้ผลเลือดเดิม ซึ่งรับไม่ได้
ขณะที่ น.ส.อภัสรา อยู่จงดี หลานสาวซึ่งเป็นผู้โพสต์ร้องเรียน บอกว่า ที่นำเรื่องราวมาโพสต์เพราะเป็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว ทั้งการลืมอุปกรณ์ การทิ้งเข็มที่ใช้แล้วเอาไว้ซึ่งเป็นขยะติดเชื้อไม่ควรจะทิ้งไว้ และสิ่งที่รับไม่ได้คือจะขอตรวจเลือดปีละครั้ง ที่เหลือจะใช้ผลเลือดเดิมแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพราะเชื่อว่าผลเลือดผู้ป่วยอาจจะเปลี่ยนแปลงซึ่งมีผลต่อการรักษา อยากให้ทาง รพ.สต.ได้ปรับปรุงแก้ไขการทำหน้าที่
ขณะที่ น.ส.อริยาพร ฉิมพาลีชัยยโชติ ผอ.รพ.สต.บ้านผักหวาน ออกมาชี้แจงว่า ปกติจะมีเจ้าหน้าที่จาก รพ.สต.หมุนเวียนให้บริการออกตรวจวัดไข้และเจาะเลือดให้ผู้ป่วยติดเตียงตามบ้านอยู่แล้ว แต่ล่าสุดตนและทีมงานได้ไปประชุมในหมู่บ้านพอดี จึงอาสาเข้าไปเจาะเลือดคนไข้รายดังกล่าวให้ ทุกครั้งที่เข้าไปก็จะประสาน อสม.ไปด้วย เพราะการวัดความดันทาง อสม.ก็มีเครื่องที่ได้รับการสนับสนุนและสามารถตรวจได้อยู่แล้ว ส่วนการเจาะเลือดญาติผู้ป่วยบางรายก็จะสามารถทำเองได้ แต่หากเคสไหนทำไม่ได้เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการให้ ส่วนเรื่องการขอเจาะเลือดปีละครั้งนั้นเป็นแค่การเสนอเพื่อขอความเห็นจากทางญาติเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากทางญาติติดใจในการให้บริการก็ขอโทษและพร้อมจะนำจุดบกพร่องไปปรับปรุงแก้ไขการทำงานให้ดีขึ้นกว่านี้