xs
xsm
sm
md
lg

"อนุทิน" สั่งทุก จว.ฉีดเข็มกระตุ้นให้ได้ 70% จ่อเปลี่ยนวัคซีนแอสตร้าฯ เป็น LAAB เพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"อนุทิน" สั่งทุกจังหวัดฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นให้ได้ 70% ในสิ้นปี มอบ อสม.ชักชวนมารับวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ย้ำช่วยอาการไม่รุนแรง ไม่เสียชีวิต เดินหน้าใช้ชีวิตปกติ ยันถ้ายโอน รพ.สต.ไม่กระทบบริการ เตรียมแลกเปลี่ยนวัคซีนแอสตร้าฯ เป็น LAAB เพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 21 ต.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมมอบนโยบายและแนวทางการเร่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันสู่ประชาชนให้กับ อสม.และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ในโครงการรวมพลัง อสม. ส่งต่อภูมิคุ้มกันป้องกัน 608 ให้ปลอดภัย ว่า แม้สถานการณ์โรคโควิด 19 จะคลี่คลายแล้ว แต่ยังเน้นย้ำทุกหน่วยงานส่งเสริมประชาชนป้องกันตนเอง โดยเฉพาะให้มารับวัคซีนเข็มกระตุ้นคือมากกว่าเข็มที่สองเป็นต้นไป ทั้งนี้ ได้กำชับ นพ.สสจ. และ ผอ.รพ.เตรียมพร้อมให้บริการวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่ประชาชนที่ประสงค์มารับ อย่าให้รอนาน มีภาระค่าใช้จ่ายใดๆ ถ้ามาได้จากการประสานของ อสม. รพ.สต. รพ.ชุมชน ที่จะมีความใกล้ชิดกับชาวบ้านมากกว่า รพ.ใหญ่ๆ ในตัวเมืองก็จะสะดวกมากขึ้น โดยการให้ อสม.ส่งต่อภูมิคุ้มกันนั้น จะเริ่มตั้งแต่วันนี้ - 31 ธ.ค. 2565 มีเป้าหมายอย่างน้อย 2 ล้านโดส และขอให้ อสม.ทุกคนฉีดเข็มกระตุ้นอย่างน้อย 1 เข็ม เพื่อเป็นต้นแบบ

"เราเน้นไปที่กลุ่ม 608 ควรได้รับอย่างน้อย 70% ย้ำว่าเข็มกระตุ้นช่วยลดอาการหนักจากโควิด คือ ไข้สูง ไอมากกว่าปกติ หรือใส่เครื่องช่วยหายใจ และช่วยให้ไม่เสียชีวิต ทั้งนี้ เราเจ็บป่วยได้ แต่ถ้าอาการไม่หนักไม่เสียชีวิต คือ สุดยอดปรารถนาของทุกคน เรามาถึงจุดนี้แล้ว ที่จะไม่ทำให้ป่วยหนักและเสียชีวิตจากโควิด ถ้าได้รับเข็มกระตุ้น จะเข็มสาม สี่ ห้า หรือหก เรามีพร้อมให้บริการทุกคน เพื่อนำความเป็นปกติสุขของชีวิต การดำเนินชีวิตมีคุณภาพกลับมา เสริมสร้างรายได้ ขยายตัวด้านเศรษฐกิจ ไม่ต้องมีการล็อกดาวน์ กฎเกณฑ์ในการจำกัดกิจกรรมการดำรงชีวิต ขอให้ประชาชนมารับเข็มกระตุ้น" นายอนุทินกล่าว

นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า ขอให้ อสม.ทั่วประเทศ รับเข็มกระตุ้นที่ 3 และ 4 ให้ครบ 100% เพื่อเป็นต้นแบบ และจะนำกลยุทธ์ “อสม. เคาะประตูบ้าน เชิญชวน อสม. และกลุ่มเป้าหมายไปรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น” มี 5 ขั้นตอน คือ 1.สำรวจ ค้นหา ที่ยังไม่ได้รับเข็มกระตุ้น 2.นำพา ส่งต่อ รายชื่อกลุ่มเป้าหมาย ให้เจ้าหน้าที่ รพ.สต./สถานบริการในพื้นที่ 3.วางแผน เตรียมพร้อม ร่วมเจ้าหน้าที่สาธารณสุข กำหนดวันจัดกิจกรรมรณรงค์ฉีดวัคซีนในพื้นที่ 4.บอกต่อ แนะนำ กลุ่มเป้าหมายไปรับวัคซีนตามวันที่กำหนด และ 5.รายงาน ติดตามผล

เมื่อถามว่าการให้ อสม.ทำหน้าที่ ขณะที่มีการถ่ายโอน รพ.สต.จะติดขัดหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า คนละเรื่อง ไม่ว่า รพ.สต.จะอยู่สังกัดใด กรมควบคุมโรคกระจายวัคซีนไปหน่วยบริการทั่วประเทศแล้ว และกำชับ นพ.สสจ.ตั้งเป้าว่าต้องทำให้ประชาชนแต่ละจังหวัดรับเข็มกระตุ้นมากกว่า 70% ของประชากร โดย 1-3 เดือนจะมีการติดตามผล ตนไปลงพื้นที่สรุปว่าเข็มกระตุ้นยังน้อย อสม.ยังรับเข็ม 4 เป็นส่วนใหญ่ แต่ประชาชนเต็มที่แค่เข็ม 3 พอถามในชุมชนยกมือกันน้อยมากในเข็ม 4 แสดงว่ายังไม่ถึง เป็นเหมือนกันทุกจังหวัด จึงต้องมาตั้งเป้าเรื่องนี้

ถามถึงวัคซีนสำหรับปี 2566 นายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้เราฉีดเข็มกระตุ้น หลายคนติดเชื้อหรือฉีดแล้ว จำนวนวัคซีนจะไม่เหมือนปีที่แล้วที่ต้องฉีด 2 เข็มอย่างต่ำต่อคน ตอนนี้ฉีดเข็มเดียว ประมาณ 6 เดือน หากมีการติดเชื้อด้วยก็ขยายเวลาได้ การบริหารจัดการวัคซีนจากนี้ปีหน้าปีถัดไป กรมควบคุมโรคต้องบริหารเหมือนวัคซีนที่ให้ต่อเนื่องประจำปีต่อประชาชน กลุ่มเสี่ยงก็จะหดตัวลงมาเหมือนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งขณะนี้เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง คนมีภุมิมมากขึ้น ความเสี่ยงลดลง ก็จะจำกัดจำนวนผู้มารับวัคซีนในอัตราที่น้อยลง การจัดซื้อก็คงจะลดลง ความต้องการวัคซีนตราบใดที่เป็นสายพันธุ์โอมิครอน ยังไม่มีการกลายพันธุ์พลิกเป็นหลังมือ อย่างแอสตร้าเซนเนก้าก็ยังยืนยันว่าระดับของการผลิตภูมิคุ้มกันให้ผู้ฉีดยังอยู่ในระดับสูง เรามีวัคซีนคอยให้บริการ

ถามว่าหากฉีดเข็มกระตุ้นไม่ได้ตามเป้า มีการประเมินหรือไม่ว่าสายพันธุ์ใหม่ๆ จะกลับมาเหมือนช่วงต้น นายอนุทินกล่าวว่า เราคิดแบบทั่วไป คนมีภูมิคุ้มกันเลย ปีที่แล้วคนไม่มีภูมิคุ้มกันการติดเชื้อการแพร่อาการหนักจะเร็ว แต่หลังฉีดวัคซีนจำนวนมาก คนจำนวนหนึ่งติดเชื้อ ความเสี่ยงประชาชนที่จะเกิดอันตรายน้อยลงจึงมาถึงจุดนี้ได้ ส่วนใหญ่คนรับกันเต็มที่ บางส่วนคิดว่าสถานการณ์ดีขึ้นไม่ไปรับ ลดความกระตือรือร้นในการรับวัคซีน ช่วงนี้ต้องเร่งให้มารับ เข้าหน้าหนาวด้วย เปิดประเทศด้วย มีการเดินทางเสรีเป็นปกติ เราพยายามปิดความเสี่ยงให้มากที่สุด แม้จะรู้ว่าคนติดเราพร้อมให้การรักษา หมอ ยา เตียง แต่อยากจะให้ประชาชนรับเข็มกระตุ้น อาการไม่รุนแรงจะได้ทำงานตามปกติได้

ถามถึงงบประมาณวัคซีนปี 66 ตั้งงบประมาณเท่าไร นายอนุทินกล่าวว่า เรารอประชุมคณะกรรมการวัคซีนฯ และคณะกรรมการวิชาการ มานั่งดูว่าตอนนี้มีวัคซีนในสต๊อกอย่างไร บริหารจัดการอย่างไร ยังมีหลายประเทศให้บริจาค เราก็รับ ล่าสุดมีเยอรมนี ให้มา 2 ล้านกว่าโดสของไฟเซอร์ เรามีแอสตร้าฯ ที่เราสั่งอยู่ กำลังให้ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรคเจรจาว่า วัคซีนที่สั่งไปขอเปลี่ยนเป็น LAAB เหมือนคราวก่อน เพื่อฉีดให้กับผู้ป่วยไม่ได้รับวัคซีนมาก่อนเลยโดยเฉพาะสูงอายุ จะได่สร้างภูมิคุ้มกันทันที แต่ราคาไม่เท่าวัคซีนทั่วไป ก็จะเปลี่ยนให้ได้จำนวนที่ประเทศต้องการและให้การรักษาแบบฉับพลันทันที แบบเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน วัคซีนยังอยู่ในสภาวะที่ควบคุมได้อยู่


กำลังโหลดความคิดเห็น