เชียงใหม่ - “ทะเลสาบดอยเต่า” ที่แล้งหนักมานานกว่า 10 ปีฟื้นคืนชีพ-เรือนแพท่องเที่ยวคึกคัก หลังน้ำเหนือไหลลงสูงสุดวันละ 200 ล้าน ลบ.ม.จนเต็มเขื่อนภูมิพล เวิ้งน้ำเต็มถึงดอยเต่าสุดลูกหูลูกตา ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว สร้างรายได้และอาชีพให้ชาวบ้าน
ขณะนี้ผู้ประกอบการแพท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ต่างเร่งลงมือซ่อมแซมทุ่นลอยเพื่อใช้ทำแพท่องเที่ยวเพิ่มเติม เพื่อบริการล่องแพทะเลสาบดอยเต่ากันอีกครั้ง หลังช่วงฤดูแล้งผู้ประกอบการแพท่องเที่ยวต้องยกแพขึ้นมาบนฝั่งนานหลายปี เนื่องจากน้ำในทะเลสาบดอยเต่าแห้งขอดจนไม่สามารถจัดกิจกรรมล่องแพท่องเที่ยวได้
กระทั่งปีนี้ฝนชุกทำให้มวลน้ำปริมาณมากได้ไหลลงสู่แม่น้ำปิง จนปริมาณน้ำเหนือเขื่อนภูมิพลมีมากสุดในรอบ 10 ปีตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา โดยช่วงที่ฝนตกหนักทางพื้นที่ตอนเหนือเขื่อนมีน้ำไหลเข้าตัวเขื่อนมากที่สุด 200 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ช่วงนี้ฝนเริ่มลดลงทำให้ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเริ่มลดลงเหลือวันละ 47 ล้านลูกบาศก์เมตร และจะยังคงมีน้ำไหลเข้าเขื่อนจนถึงช่วงปลายปี ทำให้ล่าสุดปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลมีทั้งหมด 11,628 ลูกบาศก์เมตรคิดเป็นร้อยละ 86 ของความจุเขื่อน
และด้วยอานิสงส์น้ำเต็มเขื่อนภูมิพล ทำให้น้ำเต็มทะเลสาบดอยเต่าไปด้วย ประกอบกับบรรยากาศช่วงปลายฝนต้นหนาวสวยงามด้วยธรรมชาติ มองเห็นเวิ้งน้ำกว้างสุดลูกหูลูกตา ไกลออกไปเป็นทางทิศตะวันตกวิวทิวทัศน์ภูเขาเป็นที่ตั้งของวัดพระธาตุดอยเกิ้ง นอกจากนี้ วิถีชาวประมงพื้นบ้านก็ได้กลับมาอีกครั้งชาวบ้านต่างออกหาปลาในแม่น้ำนำมาแปรรูปเป็นอาหาร-ของฝาก ทำให้ทะเลสาบดอยเต่ากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในรอบกว่า 10 ปี
นางสาวพัชรี นันต๊ะสาร ผู้ประกอบการเรือนแพดอยเต่าริมปิง ที่อยู่คู่กับทะเลสาบดอยเต่ามานานกว่า 30 ปี เปิดเผยว่า ตนเข้ามาดูแลกิจการต่อจากพ่อเป็นรุ่นที่ 2 ปีนี้ถือว่าน้ำในทะเลสาบดอยเต่ามีมากสุดในรอบ 10 ปี ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีงามมากทำให้นักท่องเที่ยวต่างเข้ามาเที่ยวเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะมารับประทานอาหารกันเป็นครอบครัว โดยเฉพาะช่วงเย็นเป็นช่วงที่อากาศกำลังเย็นสบายเหมาะต่อการพักผ่อน
“ช่วงที่น้ำในทะเลสาบดอยเต่าแห้งต่อเนื่องหลายปีที่ผ่านมา ต้องปรับตัวอยู่กับปริมาณน้ำที่ขึ้นๆ ลงๆ ต้องนำแพไปจอดให้บริการลูกค้าตามริมน้ำ บางปีน้ำในแม่น้ำปิงแทบจะไม่ไหลเลย แต่มาวันนี้รู้สึกดีใจที่สุดที่ทะเลสาบดอยเต่า ที่ถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพียงแห่งเดียวที่เป็นแลนด์มาร์กของอำเภอดอยเต่ากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง”
