รถปริศนาขับตามอดีตทหารรับใช้เจ๊นุช หลังจากไปให้ปากคำเพิ่มเติม เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

ราชบุรี - รถปริศนาขับตามอดีตทหารรับใช้เจ๊นุช หลังกลับจากไปให้ปากคำเพิ่มเติม เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ด้าน กัน จอมพลังเผยผมยังอยู่ปกป้องน้อง

วันนี้ (15 ต.ค.) กัน จอมพลัง ได้เดินทางมาพบกับ น.ส.เอ ซึ่งเป็นทหารในสังกัดกองทัพไทย ยศสิบตรี ที่ถูกอดีต ส.ต.ท.(หญิง) กรศศิร์ บัวแย้ม หรือเจ๊นุช ผบ.หมู่ กก.4 บก.1 ตำบลเขาขลุง อำเภอบ้านโป่ง จ.ราชบุรี หลังได้รับแจ้งว่า เมื่อช่วงประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 14 ต.ค.65 ที่ผ่านมา ถูกคนขับรถกระบะขับตามขณะกำลังกลับจากไปให้ปากคำในคดีที่ถูก เจ๊นุช บังคับใช้แรงงาน และทำร้ายร่างกาย ทำให้เกิดความหวาดกลัวและเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

โดย กัน จอมพลัง ได้ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเช้าได้โทรศัพท์มาสอบถามถึงความคืบหน้าของคดีกับ น้องเอ เนื่องจากวันที่ 17 ต.ค.นี้ ทางพนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนให้อัยการเพื่อสั่งฟ้องแล้ว ได้รับรู้เรื่องที่น้องเอ มีคนขับรถตามโดยมีคลิปจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน ช่วงบ่ายวันนี้จึงได้เดินทางมาหาน้องเอ พร้อมกับได้เข้าไปดูจุดที่น้องบอกว่ามีรถต้องสงสัย ซึ่งเป็นรถกระบะมีแผงที่หลังกระบะ คนขับเป็นผู้ชาย แต่มองไม่เห็นป้ายทะเบียนเพราะรถเปิดไฟสูงใส่ ได้ขับตามหลังรถของน้อง

ซึ่งมีน้าสาวของน้องเอ เป็นคนขับ ซึ่งตอนแรกคิดว่าเป็นรถที่ขับมาทางเดียวกัน แต่เปิดไฟสูง จึงได้จอดเพื่อให้รถคันดังกล่าวแซง แต่กลับจอดต่อท้ายและเปิดไฟสูงใส่ จนทำให้น้าสาวของน้องเอ ต้องขับไปในที่ชุมชน ซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นอยู่และจอดรถเดินลงไปหากลุ่มวัยรุ่น ทำให้รถคันดังกล่าวได้วนรถกลับไป ซึ่งในเรื่องนี้ได้สร้างความกลัวให้น้องเอ และครอบครัวมาก ซึ่งเรื่องนี้ตนเองยังติดตามคดีอยู่และเรื่องก็ไม่ได้เงียบ แต่เรื่องนั้นอยู่ในกระบวนการของกฎหมาย และยังเป็นที่สนใจของประชาชน แต่วันนี้ที่มาติดตามคดีน้องและจะไปขอดูกล้องวงจรปิดในจุดอื่นๆ ทราบว่าเสียทั้งตำบล แต่จะพาน้องไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนเพื่อป้องกันความปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมาก มีเจ้าหน้าที่มาดูแลความปลอดภัยให้น้องอยู่แล้ว แต่เวลาในช่วงเกิดเหตุอาจจะคลาดเคลื่อนกัน

ด้าน น.ส.เอ บอกว่า รู้สึกกลัวกับเหตุการณ์นี้มาก เพราะในซอยเข้าบ้านนั้นจะเป็นซอยส่วนบุคคล ซึ่งเป็นญาติพี่น้องกันหมด และหากว่ามีรถแปลกเข้าไปจะรู้ทันที เพราะปกติจะไม่มีรถคนแปลกหน้าเข้าไป และรถคันนี้ดับเครื่องยนต์ พอน้าสาวขับรถเข้าไปก็ติดเครื่องและขับตามไปทันที และได้สอบถามเพื่อนบ้านบอกว่า รถคันนี้มาจอดรอ และเมื่อเห็นรถของตนเองเลี้ยวเข้าไปมาก็ขับตามทันที ซึ่งรถคันนี้ใช้กันหลายคน จึงเกรงว่าอาจจะไม่ปลอดภัย แม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลความปลอดภัย แต่ในช่วงเกิดเหตุอาจจะคลาดเคลื่อนกัน แต่หลังจากนี้จะต้องคอยระวังตัวมากขึ้น