xs
xsm
sm
md
lg

สุดโหด! หนุ่มบุรีรัมย์เพิ่งกลับจากเยอรมนีถูกฆ่าเผาศพอำพรางในโรงเรียนใกล้บ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ -  หนุ่มบุรีรัมย์เพิ่งกลับจากเยอรมนีถูกฆ่าเผาร่างในโรงเรียน วงจรปิดร้านค้าข้างบ้านพบผู้ตายเดินไปคนเดียวจนพ้นรัศมีกล้อง ก่อนมีคนมาเจอเป็นศพ ขณะที่ครอบครัวญาติยังกินเลี้ยงฉลองวันเกิดเมียที่บ้าน ตำรวจเร่งแกะรอยวงจรปิดและเค้นสอบผู้ต้องสงสัย หาเบาะแสล่าตัวผู้ก่อเหตุ


ค่ำวานนี้ (10 ต.ค.) พ.ต.ท.สกลณัฎฐ ปัตตาเทศา สารวัตร (สอบสวน) สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งพบร่างคนถูกเผาเสียชีวิตภายในบริเวณโรงเรียนบ้านแสลงโทน ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย คาดว่าน่าจะเป็นการฆ่าเผาอำพราง จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลประโคนชัย พร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างจุดประโคนชัย และหน่วยกู้ภัยบ้านสองเมือง ร่วมตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

ทั้งนี้ พ.ต.อ.เจษสฤษฎ์ แพ่งศรีสาร ผกก.สภ.ประโคนชัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธร จ.บุรีรัมย์ ชุดสืบสวน สภ.ประโคนชัย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุด้วย จุดเกิดเหตุเป็นบริเวณด้านหลังโรงเรียนบ้านแสลงโทน พบศพนายธนทัต จันทร์แก หรือหนั้ม อายุ 21 ปี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต ในสภาพบริเวณหน้าผากคล้ายถูกของแข็งตีเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกไฟไหม้ทั้งเสื้อยืดและกางเกงที่สวมใส่เกือบทั้งหมด ลามไปจนถึงผิวหนังตามร่างกายบางส่วนด้วย

ข้างศพพบรองเท้า 1 คู่ ไฟแช็ก 1 อัน คราบน้ำมันและหยดน้ำตาเทียน คาดว่าคนร้ายใช้ก่อเหตุสังหารโหดครั้งนี้ด้วย ทั้งนี้ยังเจอกระเป๋าสะพานสีฟ้าซึ่งเป็นของผู้ตาย วางอยู่บนตะแกรงเหล็กที่ไว้สำหรับใส่ขวดพลาสติกหรือขยะรีไซเคิลของโรงเรียน เมื่อตรวจสอบในกระเป๋าสะพายดังกล่าว พบกระเป๋าสตางค์สีน้ำตาล 1 ใบ ด้านในมีเงิน 280 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และบุหรี่ 2 ซอง เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจแก่ครอบครัวญาติและชาวบ้านอย่างมาก เพราะเป็นการฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมและก่อเหตุในบริเวณโรงเรียนด้วย


จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดของร้านขายของชำ ซึ่งอยู่ติดกันกับบ้านของผู้ตาย ก็พบว่าเมื่อเวลา 18.55 น. นายธนทัตได้เดินออกจากบ้านผ่านหน้าร้านไปคนเดียว ก่อนจะพ้นรัศมีกล้องวงจรปิดแล้วหายไปในความมืด แต่ไม่มีใครรู้ว่านายธนทัตจะเดินไปไหนหรือไปหาใคร แต่เป็นภาพสุดท้ายก่อนจะพบศพถูกฆ่าเผาอำพราง

สอบถามนายบัญญัติ วนมา นักการภารโรง ซึ่งเป็นคนมาพบศพคนแรก เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 10 ต.ค. ตนมาเข้าเวรที่โรงเรียนตามปกติ แต่พอเดินเข้ามาภายในโรงเรียนได้กลิ่นเหม็นไหม้และเห็นเปลวไฟอยู่บริเวณด้านหลังโรงเรียน ตอนแรกนึกว่าใครมาจุดเผาอะไรไว้ แต่พอเดินไปใกล้ๆ แล้วใช้ไฟฉายส่องดูก็เห็นเป็นขาคน ก็ตกใจจึงรีบไปเรียกชาวบ้านใกล้เคียงให้มาช่วยดู ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ก่อนจะมาเจอศพก็ไม่ได้ยินหรือเห็นอะไรผิดปกติ จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น


ด้าน น.ส.ยุพาภรณ์ เกษาโร หรือก้อย อายุ 22 ปี ภรรยาของนายธนทัต ผู้ตาย เล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า สามีเพิ่งกลับจากเยอรมนีพร้อมกับครอบครัวตอน 5 ทุ่มของคืนวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา แล้ววันนี้ 10 ต.ค.ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของตน ทางครอบครัวญาติพี่น้องประมาณ 10 คนมีการกินเลี้ยงฉลองเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของตน โดยเริ่มกินกันตั้งแต่ประมาณ 5 โมงเย็น กระทั่งช่วง 6 โมงกว่าไม่เห็นสามีอยู่ที่บ้าน คิดว่าน่าจะเดินไปซื้อของหรือเดินเล่นใกล้ๆ

กระทั่งผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่เห็นสามี ก็เริ่มใจคอไม่ดี จึงไปขอดูกล้องวงจรปิดที่ร้านค้าข้างบ้าน ก็พบภาพสามีของตนเดินผ่านหน้าร้านของชำไปคนเดียวช่วงเวลา 18.55 น. แล้วก็หายไปกับความมืดโดยไม่รู้ว่าจะไปไหนไปหาใคร กระทั่งมาทราบอีกทีว่ามีคนพบศพสามีถูกฆ่าเผาอำพรางที่โรงเรียนบ้านแสลงโทน ก็รู้สึกช็อกมากทำอะไรไม่ถูก และไม่รู้สาเหตุว่าสามีถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมเพราะอะไร สามีเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด


ขณะที่นายสุวรรณ ภาศรี ลุงของผู้ตาย บอกว่าตนรักนายธนทัตเหมือนลูกชายคนหนึ่งเพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กก่อนที่แม่ของเขาจะพาไปอยู่ต่างประเทศด้วย แต่ก็ไปๆ กลับๆ ซึ่งหลานกับครอบครัวก็เพิ่งเดินทางมาจากเยอรมนีเมื่อคืนวันที่ 9 พอเย็นวันนี้ 10 ต.ค.ที่บ้านจึงกินเลี้ยงสังสรรค์กันในครอบครัว ประกอบกับเป็นวันเกิดของหลานสะใภ้ด้วย ก็ไม่มีใครรู้ว่าหลานออกไปจากบ้านตอนไหนหรือไปหาใคร

มารู้อีกทีตอนที่มีคนไปพบว่าถูกฆ่าเผาอำพรางในโรงเรียนที่หลานเคยเรียนตอนเด็ก หลานเป็นคนในหมู่บ้านและเคยเรียนที่นี่ก็ไม่เคยเห็นหลานมีปัญหากับใคร จึงไม่รู้สาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร แต่ก็อยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบทั้งภูธรจังหวัด และชุดสืบ สภ.ประโคนชัย ได้เร่งแกะรอยวงจรปิดใกล้เคียง และเรียกสอบผู้ต้องสงสัยเพื่อเป็นเบาะแสติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี เบื้องต้นยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อหวังเอาทรัพย์สิน หรือความแค้นส่วนตัว




กำลังโหลดความคิดเห็น