ลำพูน - ตำรวจบุกจับสองผัวเมีย อาศัยช่วงน้ำท่วมที่เจ้าของห้องไม่อยู่ตระเวนงัดห้องพักตามหอฯ ทั่วเมืองลำพูน ลักดะทั้งโน้ตบุ๊ก นาฬิกา พระเครื่อง ยันเหรียญบาท-เหรียญสลึง
วันนี้ (6 ต.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรมลำพูน ได้เข้าจับตัวนายไชยยา ชัยจันต๊ะ อายุ 38 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา และนางสาวธัญลักษณ์ เทพวรรณ อายุ 32 ปี ชาว ต.ต้นธง อ.เมือง จ.ลำพูน แฟนสาว ที่หอพักแห่งหนึ่งย่านนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน
พร้อมของกลาง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก นาฬิกา พระเครื่อง กระปุกออมสิน เงินเหรียญบาท เหรียญสลึง ฯลฯ รวมทั้งหมด 18 รายการ และจากการตรวจค้นในห้องพักยังพบอุปกรณ์ เช่น คีมตัดเหล็ก ไขควง อาวุธปืนสั้น ลูกกระสุนปืนลูกซอง 16 นัด ด้วย
การจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางดังกล่าวมีขึ้นหลัง ร.ต.อ.ศักดิ์ชัย พรเจิมกุล พนักงานสอบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรมลำพูน ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าเมื่อกลางดึกวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมามีคนร้ายเข้าไปงัดห้องหมายเลข 8 หอพักแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 11 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน ขโมยคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และนาฬิกาข้อมือยี่ห้อโรเล็กซ์ ต่อมาวันที่ 3 ตุลาคม เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมีคนร้ายเข้าไปงัดห้องพัก หอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 6 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน คนร้ายได้ขโมยพระเครื่อง และเงินเหรียญหายไป
ต่อมา พ.ต.อ.วีระชาติ ระตะเจริญ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.มรกต ศิริชัย รอง ผกก.สืบสวน สภ.นิคมฯ พ.ต.ต.สุริยพงศ์ ร่องสุวรรณ สารวัตรสืบสวน สภ.นิคมฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่ากล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะคนร้ายลงมือก่อเหตุ และเมื่อนำภาพกล้องวงจรปิดรอบๆ ที่เกิดเหตุมาแกะรอยจนทราบตัวคนร้าย จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้น ทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ช่วงที่โควิดระบาดไม่มีงานทำ จึงขี่รถออกตระเวนดูลาดเลาตามพื้นที่ต่างๆ จนพบว่าช่วงกลางคืนเจ้าของห้องพักไม่อยู่หลายห้อง จึงปลอมตัวเป็นผู้เช่าทำทีจะเข้าห้องพักก่อนจะฉวยโอกาสนำคีมตัดเหล็ก ไขขวง และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เตรียมมาเข้าไปงัดห้องพัก ขโมยทรัพย์สินเหยื่อ และช่วงนี้เกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่เจ้าของห้องพักบางรายไปอาศัยอยู่กับญาติเพื่อสะดวกในการเดินทางไปทำงาน จึงลงมือก่อเหตุ
หลังสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในยามวิกาลฯ ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรมลำพูนดำเนินคดีต่อไป