อุทัยธานี - "เขื่อนเจ้าพระยา" หหน่วงน้ำเหนือต่อเนื่อง ทำทะลักท่วม “เกาะเทโพ อุทัยธานี” จมแล้วหลายหมู่บ้านไม่ต่ำกว่า 300 ครัวเรือน ร้านค้า-ร้านอาหาร-โรงเรียน ริมฝั่งปิดกันระนาว ขณะที่เขื่อนทับเสลา-เขื่อนขุนห้วยแก้วน้ำยังล้นสปิลเวย์ทะลักท่วมหลายอำเภอ ชาวบ้านต้องขนหมูหนีน้ำนับ 100 ตัว
วันนี้ (7 ต.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี ภายหลังจากที่ทางกรมชลประทานได้ชะลอน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อลดผลกระทบพื้นที่ตอนล่าง ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง พบว่าพื้นที่ ต.เกาะเทโพ อ.เมืองอุทัยธานี ซึ่งอยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยาถูกน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมอย่างรวดเร็วเพิ่มอีก 2 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 5 หลังจากพื้นที่หมู่ 6 บ้านเกาะสวรรค์ ถูกน้ำท่วมขังมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว
เบื้องต้นมีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมเกือบทั้งหมดรวมกว่า 300 หลังคาเรือน ร้านค้า-ร้านอาหารที่อยู่ติดริมน้ำกว่า 20 ร้านต้องปิดร้านกันชั่วคราว แม่ค้าที่เคยขายของอยู่ติดริมน้ำเจ้าพระยา ต้องขนย้ายข้าวของออกมาขายที่หน้าถนนสายหลักแทน การสัญจรผ่านได้แต่รถใหญ่เท่านั้น รวมไปถึงโรงเรียนบ้านเกาะโพก็ต้องปิดทำการเรียนการสอนตามไปด้วยเช่นกัน
โดยพบว่าปริมาณน้ำท่วมสูงที่ประมาณ 50 เซนติเมตร บางจุดลึกสุดถึง 3 เมตร และไหลเชี่ยวแรง ประชาชนทั้ง 2 หมู่บ้านต้องขนย้ายสิ่งของโดยเฉพาะรถยนต์-รถจักรยานยนต์ ขึ้นไว้บนริมถนนสูงชั่วคราว แต่ยังคงปักหลักอาศัยอยู่ในตัวชั้น 2 ของบ้าน
ส่วนผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และผู้ที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ เริ่มทยอยขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นออกมาพักอาศัยอยู่ที่บริเวณศูนย์อพยพเฉพาะกิจ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตำบลเกาะเทโพ หรืออาคารบึงพระชนก กันหลายครัวเรือนแล้ว โดยทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกาะเทโพได้เร่งลงพื้นที่นำยาและอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ป่วยเข้าแจกจ่ายให้ประชาชน
ชาวบ้านหมู่ที่ 4 ตำบลเกาะเทโพ เล่าว่า น้ำขึ้นมาไวมากๆ ตอนตี 5 ยังไม่มีน้ำขึ้นมา ตนจึงออกมาช่วย อบต.เกาะเทโพ กรอกกระสอบทราย ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงก็มีคนมาแจ้งว่าน้ำทะลักท่วมเข้าบ้านของตนจนหมดแล้ว โชคดีที่เก็บข้าวของเครื่องใช้ไว้บนที่สูงก่อนบ้างแล้ว จึงได้รับความเสียหายบางส่วน
ด้านเขื่อนทับเสลา และเขื่อนห้วยขุนแก้ว ที่ระบายน้ำอย่างต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้ รวมกันแล้วไม่ต่ำกว่าวันละ 10 กว่าล้าน ลบ.ม. แม้ว่าเช้าวันนี้เขื่อนทับเสลาจะหยุดการระบายน้ำช่องทางหลัก แต่ยังคงมีน้ำล้น Spill Way 5.82 ล้าน ลบ.ม. ส่วนเขื่อนห้วยขุนแก้ว เช้านี้มีการระบายน้ำที่ 1.94 ล้าน ลบ.ม. และมีน้ำล้น Spill Way 0.86 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้พื้นที่รับน้ำตั้งแต่ อ.ลานสัก อ.หนองฉาง อ.หนองขาหย่าง ได้รับผลกระทบน้ำท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเป็นวงกว้างอย่างต่อเนื่อง
ระดับน้ำท่วมในพื้นที่ต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 30 เซนติเมตร สูงสุดที่ประมาณ 1.50 เมตร ชาวบ้านในพื้นที่ต้องขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ ไว้บนที่สูง บางครอบครัวต้องขึ้นมาพักอาศัยอยู่ภายในเต็นท์ริมถนนชั่วคราว ขณะที่มวลน้ำดังกล่าว ยังได้ไหลเข้าท่วมวัดดอนกลอย และโรงเรียนบ้านดอนกลอย ทำให้โรงเรียนต้องหยุดทำการเรียนการสอนชั่วคราวด้วย
ขณะที่ชาวบ้านพื้นที่หมู่ 4 บ้านเก้านิ้ว หมู่ 5 และหมู่ที่ 6 บ้านดอนกลอย ต.ดอนกลอย อ.หนองขาหย่าง ต้องร้องขอทีมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอหนองขาหย่างช่วยกันขนย้ายหมู ที่ชาวบ้านในหมู่บ้านเลี้ยงไว้ขาย รวมกว่า 100 ตัว หนีน้ำที่ไหลเอ่อล้นทะลักเข้าท่วมในพื้นที่อย่างรวดเร็ว
น.ส.ศิรประภา บิณฑวิหค ชาวบ้านในตำบลดอนกลอย เล่าว่า วันนี้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว และไหลแรงมาก จนขนย้ายหมูที่เลี้ยงไว้กันไม่ทัน ต้องประสานให้ทางปศุสัตว์อำเภอหนองขาหย่าง และเพื่อนบ้านมาช่วยกันขนก่อนหมูจะจมน้ำตาย โดยหมูที่ขนย้ายออกมาจากทั้ง 3 หมู่บ้านในครั้งนี้จะนำไปฝากไว้กับฟาร์มใกล้เคียงที่ยังไม่ถูกน้ำท่วมให้ช่วยเลี้ยงไว้ชั่วคราว