xs
xsm
sm
md
lg

ทหารพม่าส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดบอมบ์ชุมชนชาวกะเหรี่ยง ฐาน บก.พล น.6 พังยับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - พม่ารบเดือดกลางดึก ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดบอมบ์ชุมชนชาวกะเหรี่ยง วัดแม่กะสะ ฐาน บก.พล น.6 (KNLA) พังยับ วัดกลายเป็นทะเลเพลิง เบื้องต้นไร้เจ็บตาย ขณะที่บรรยากาศบริเวณชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ ประชาชนยังคงใช้ชีวิตตามปกติ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น.วันนี้ (6 ต.ค.) ทหารพม้าได้ส่งเครื่องบินมาทิ้งระเบิดลงในเขตหมู่บ้านแม่กะสะ ต.กระสุนตก อ.พญาตองซู จ.จะเองเซจี (รัฐกะเหรี่ยง) ที่อยู่ห่างชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ลึกเข้าไปประมาณ 12 กิโลเมตร จำนวน 3 ลูก โดยระเบิดลูกแรก สร้างความเสียหายให้อาคารโรงพยาบาลในพื้นที่ บก.พล น.6 เพียงเล็กน้อย ส่วนระเบิดอีก 2 ลูก ตกที่วัดบ้านแม่กะสะ ผลของระเบิดทำให้อาคารศาลหลายหลังถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหมด 

สำหรับบ้านแม่กะสะ เป็นที่ตั้งสำคัญของกองบัญชาการกำลังกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) บก.พล น.6 ที่มี พลจัตวา ซามิ เซโพ เป็น ผบ.พล น 6 (KNLA) ส่วนสาเหตุที่ประชาชนหลายร้อยชีวิตไม่ได้รับบาดเจ็บล้มตาย จากเหตุทหารพม้าส่งเครื่องบินมาทิ้งระเบิดนั้น เนื่องจากช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ผู้นำ KNLA ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมพื้นที่หลบภัย เนื่องจากพบว่าทางกองทัพพม้า ได้ส่งเครื่องบินทหารมาบินลาดตระเวนเหนือท้องฟ้าพื้นที่บ้านแม่กะสะ และพื้นที่หมู่บ้านใกล้เคียง รวมทั้งพื้นที่กิ่งอำเภอเมืองพญาตองซู มาแล้วหลายรอบ 

จากคำเตือนดังกล่าวจึงทำให้ชาวบ้านทั้งหมดปลอดภัยจากลูกระเบิด เนื่องจากทุกครอบครัวได้หอบลูกจูงหลานอพยพออกนอกพื้นที่ไปอาศัยอยู่หมู่บ้านตองไว และชาวบ้านบางส่วนได้หนีเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำที่เป็นหลุมหลบภัยอย่างดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ นอกจากทหารพม้าต้องการกวาดล้างชาวกะเหรี่ยงแล้ว ทหารพม่ายังต้องการยึดฐานพญาด่อง ที่ถูกกองกำลังกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) เข้าโจมตีเมื่อวันที่ 28 ก.ย.65 ที่ผ่านมา เหตุการณ์วันนั้นทำให้ทหารพม้าเสียชีวิตไป 13 นาย 1 ใน 13 นาย มีนายทหารยศร้อยเอกรวมอยู่ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้ พ.อ.ธัชเดช อาบัวรัตน์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ จากนั้นได้ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะหากเหตุการณ์ยังไม่สงบอาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ได้ 

อีกทั้งหากเกิดการสู้รบที่รุนแรงเป็นเหตุทำให้ชาวพม้าอพยพเข้ามาในประเทศไทยเหมือนในอดีตเมื่อหลายปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะได้ร่วมวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ แล้วมาวางแผนจัดหาสถานที่เอาไว้รองรับผู้อพยพ ให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน ตามหลักสากลต่อไป 

สำหรับบรรยากาศบริเวณชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ ประชาชนยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งต่างจากฝั่งกิ่งอำเภอพญาตองซู ที่มีแต่ความเงียบเหงา เพราะทุกครอบครัวเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ส่งผลทำให้การค้าตามแนวชายแดนนั้นเงียบเหงาไปด้วย










กำลังโหลดความคิดเห็น