ชาวบ้านในเมืองพญาตองซู เริ่มเก็บของมีค่าเตรียมอพยพเข้าไทยหลังมีเหตุยิงปะทะกันของทหารพม่า-ชนกลุ่มน้อย

กาญจนบุรี - ชาวบ้านในเมืองพญาตองซู เริ่มมีการเก็บสิ่งของมีค่าเพื่อเตรียมรับสถานการณ์และอาจจะอพยพเข้ามาในประเทศไทย หลังมีเหตยิงปะทะกันระหว่างทหารพม่า-ชนกลุ่มน้อย 

วันนี้ (28 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ เจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.134 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี รวมทั้งผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.หนองลู และชุด ชรบ.ร่วมกันเฝ้าระวังช่องทางธรรมชาติ

รวมทั้งจุดผ่อนปรนชั่วคราวด่านพรมแดนชั่วคราวบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เนื่องจากช่วงเวลาประมาณ 04.40 น.เกิดการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารประเทศพม่า และชนกลุ่มน้อย ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากชายแดนไทยเข้าไปยังฝั่งประเทศพม่าประมาณ 5-10 กิโลเมตร และนอกจากนี้ เหตุการณ์ยิงปะทะยังเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในช่วงเวลาประมาณ 09.30 น.วันนี้ (28 ก.ย.) ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด ร.อ.ซอก กะรี ผู้บังคับหมวด KNLA พัน 16 กล่าวต่อสื่อออนไลน์ของชนกลุ่มน้อย KIC (Karen information center) ว่า การเข้าโจมตีฐานพญาด่อง พัน ร.283 ของสภาทหารในพื้นที่ อ.พญาตองซู นั้น สืบเนื่องมาจากประชาชนเกิดปัญหาความไม่สะดวกในการสัญจรไปมา KNLA พัน 16 ร้อย 2 จึงทำการเข้าโจมตีฐาน โดยใช้เวลาในการโจมตีประมาณ 1 ชั่วโมง โดยฝ่ายกำลังสภาทหารเสียชีวิต จำนวน 13 นาย รวมทั้งยึดอาวุธปืนได้ จำนวน 7 กระบอก และยึดกระสุนได้จำนวนมาก

จากเผยแพร่ภาพของ Karen Information Center - KIC ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงเผยให้เห็นภาพบรรยากาศการต่อสู้ และภาพของทหารพม่าที่เสียชีวิต รวมทั้งอาวุธจำนวนหนึ่งที่ KNLA ยึดได้จากการต่อสู้ในวันนี้ ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ ทหารพม่าอาจมีการเสริมกำลังเพื่อยึดฐานคืน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการต่อสู้ที่รุนแรงขึ้น และจากการรายงานข่าวพบว่า ชาวบ้านในพื้นที่การปะทะและพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งชาวบ้านในเมืองพญาตองซู เริ่มมีการเก็บสิ่งของมีค่า เพื่อเตรียมรับสถานการณ์และอาจจะอพยพเข้ามาในประเทศไทย