ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โอทอปโคราชฟื้นตัว พัฒนาชุมชนโคราชเผยยอดขายสินค้าโอทอปโคราชปีนี้พุ่งเฉียด 1 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมามียอดขาย 7,700 ล้าน ชี้ผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ผ้าเป็นพระเอกในการสร้างรายได้ ระบุโอทอปส่วนใหญ่ยังอยู่ในกลุ่ม D เกิดขึ้นใหม่เป็นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ยังต้องพัฒนาให้เข้มแข็ง ขณะกลุ่ม A ดาวเด่นมีไม่ถึง 300 ราย
วันนี้ (29 ก.ย.) นางจำเรียง มณีพินิจ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากข้อมูลล่าสุดจังหวัดนครราชสีมามีผู้ผลิต ผู้ประกอบการโอทอป (OTOP) รวม 2,789 ราย เป็นผลิตภัณฑ์ 5,980 ผลิตภัณฑ์ แบ่งเป็นผู้ประกอบการรายเดียวจำนวน 1,244 ราย เป็นผู้ผลิตชุมชน 1,481 ราย และเป็น SMEs จำนวน 64 ราย
ส่วนผลิตภัณฑ์แบ่งเป็น ผลิตภัณฑ์กลุ่ม A ซึ่งเป็นดาวเด่น มีความเข้มแข็งทั้งด้านของผลิตภัณฑ์และตลาด มีจำนวน 284 ผลิตภัณฑ์ ส่วนใหญ่เป็นสินค้ากลุ่มผ้าไหม ผ้าฝ้ายพื้นเมือง, ผลิตภัณฑ์กลุ่ม B เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทหัตถกรรม งานฝีมือ ใช้เวลาในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และมีมูลค่าค่อนข้างสูง กลุ่มนี้มีจำนวน 163 ผลิตภัณฑ์, กลุ่ม C เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้ และมีตลาดเบื้องต้น และเป็นกลุ่มที่มีความเป็นไปได้ กลุ่มนี้มี 572 ผลิตภัณฑ์ และกลุ่ม D คือกลุ่มโอทอปที่เกิดขึ้นใหม่ ไม่แข็งแรง ขายได้บ้างไม่ได้บ้าง ซึ่งกลุ่มนี้จะต้องเข้าไปช่วยให้เดินหน้าต่อไปได้ มีจำนวน 4,961 ผลิตภัณฑ์ ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าประเภทกลุ่มอาหาร และของใช้ต่าง ๆ
นางจำเรียงกล่าวอีกว่า การทำผลิตภัณฑ์โอทอปที่ยังไม่ประสบความสำเร็จคือการขาดความเอาใจใส่ที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และความต่อเนื่อง มักจะเป็นโอทอปยามว่าง คือว่างเมื่อไหร่ค่อยทำผลิตภัณฑ์ออกมา ตลาดก็ไม่ต่อเนื่องจึงเป็นปัญหาให้โอทอปไม่ประสบความสำเร็จ ไปต่อไม่ได้
สำหรับรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอทอปของจังหวัดนครราชสีมา หลังประสบภาวการณ์ระบาดของโควิด-19 อยู่ 2 ปี ทำให้ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอทอปลดลงอย่างมาก ขณะที่ผู้ประกอบการก็พยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ มีการโพสต์ขายสินค้าทางออนไลน์ ใช้ Facebook Line ทำการไลฟ์สดขายผลิตภัณฑ์ของตัวเอง เช่น ทอดมันปลา จากเดิมขายเป็นแพก ในช่วงโควิด-19 ระบาดผู้ประกอบการก็นำไปปรุงสุกและโพสต์ขาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า คือซื้อไปก็สามารถรับประทานได้เลย และห่อใบตองส่งให้ลูกค้าก็น่ารับประทานไปอีกแบบได้รับความนิยมจากลูกค้าสร้างรายได้อย่างดี
"ส่วนรายได้จากการจำหน่ายสินค้าโอทอปในปี 2565 (เดือน ต.ค.) มียอดจำหน่ายกว่า 8,760 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการขายผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ผ้า หากย้อนดูรายได้จากปี 2562 มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าโอทอปจำนวนกว่า 6,000 ล้านบาท ปี 2563 มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าโอทอปจำนวนกว่า 7,000 ล้านบาท ปี 2564 มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าโอทอปจำนวนกว่า 7,700 ล้านบาท โดยจนถึงสิ้นปีนี้คาดว่าน่าจะมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าโอทอปเฉียด 10,000 ล้านบาท ส่วนปี 2566 ตั้งเป้าที่จะมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าโอทอปเพิ่มจากปี 2565 อีกประมาณร้อยละ 7" นางจำเรียงกล่าวในตอนท้าย