นครปฐม - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นำทีมแถลงผลการจับกุม 2 ผู้ต้องหาในการลักลอบขนยาเสพติดเข้าพื้นที่ หลังพบจุดตรวจแล้วมีลักษณะหลบหนีแต่ไม่ไปรอด พบยาบ้า 2.5 แสนเม็ด ขยายผลพบของกลางเป็นเงินสด 3 แสน รถกระบะ 1 คัน เตรียมขยายผลไล่ล่าขบวนการใหญ่ต่อ
วันนี้ (27 ก.ย.) พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และ พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรม ตำรวจภูธรภาค 7 (หัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดภาค 7) พร้อมชุดจับกุม แถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ของกลางยาบ้า 2.5 แสนเม็ด พร้อมของกลางหลายรายการ
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เผยว่า ในการแถลงข่าวดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย ประกอบด้วย นายเฉลิมวงศ์ หรือหนึ่ง ตั้งสมบูรณ์ อายุ 33 ปี และนายกิตติชัย หรือตี๋ ตรีเพชร อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.352/2565 โดยกล่าวหาว่า "มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) เพื่อจำหน่าย เป็นการกระทำเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจาย พร้อมด้วยของกลาง ได้แก่ ยาเสพติตให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนทั้งสิ้น 250,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง เงินสด จำนวน 300,000 บาท รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผอ 4599 นครราชสีมา
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดป้องกันเหตุอยู่ที่ถนนสาธารณะบางภาษี-ศาลายา ม.10 ต.ลำพญา อ.บางเลน จ.นครปฐม พบรถยนต์กระบะขับผ่านลงสะพานมาถึงก่อนจุดตรวจประมาณ 150 เมตร ได้แสดงอาการมีพิรุธ โดยหยุดรถและเลี้ยวกลับรถบนเชิงสะพานแล้วเร่งเครื่องขับหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จุดตรวจจึงติดตามไปอย่างกระชั้นชิด สังเกตเห็นว่าผู้ที่นั่งด้านข้างคนขับด้านซ้ายได้ลดกระจกลงและได้ทิ้งกล่องพัสดุไปรษณีย์สีน้ำตาลลงข้างทางตลอดเส้นทางที่หลบหนี
จนมาถึงถนนสาธารณะภายในหมู่บ้าน ม.9 ต.นราภิรมย์ อ.บางเลน จ.นครปฐม รถกระบะ คันดังกล่าวได้ชะลอความเร็ว และนายเฉลิมวงศ์ หรือหนึ่ง ตั้งสมบูรณ์ ได้เปิดประตูกระโดดลงจากรถคันดังกล่าวพยายามวิ่งหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวนายเฉลิมวงศ์ ไว้ได้ ส่วนรถยนต์กระบะคันดังกล่าวได้ขับหลบหนีไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวนายเฉลิมวงศ์ ไปตรวจสอบบริเวณจุดที่ทิ้งกล่องบรรจุยาบ้าระหว่างทางหลบหนี พบกล่องไปรษณีย์ภายในบรรจุยาบ้าของกลาง สอบถามนายเฉลิมวงศ์ ให้การยอมรับว่าผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าวคือ นายกิตติชัย หรือตี๋ ตรีเพซร ซึ่งร่วมกับตนไปรับกล่องไปรษณีย์ตังกล่าวเพื่อนำไปส่งในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงจับกุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเลน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมา เข้าหน้าที่ตำรวจไห้สืบสวนขยายผล ทราบว่า นายกิตติชัย มีส่วนเกี่ยวข้องกับรถยนต์กระบะคันที่ใช้หลบหนีไป และมีพยานหลักฐานว่าตามวันเวลาเกิดเหตุนายกิตติชัย เป็นผู้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวไปรับยาบ้า ร่วมกับนายเฉลิมวงศ์ จริง โดยเมื่อวันที่ 26 ก.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานยื่นต่อศาลจังหวัดนครปฐม เพื่อขออนุมัติหมายจับ นายกิตติชัย ตรีเพชร ซึ่งศาลจังหวัดนครปฐมอนุมัติหมายจับที่ จ.352/2565 ลงวันที่ 26 ก.ย. ข้อหา "ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นายกิตติชัย ได้หนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่โรงแรมในเขตจังหวัดนครปฐม จึงออกสืบสวนติดตาม และสามารถจับกุมนายกิตติชัย ได้ในวันเดียวกัน สอบถามนายกิตติชัย ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ขับรถกระบะคันดังกล่าวหลบหนีไปตามวันเวลาเกิดเหตุจริง เนื่องจากได้ร่วมกับ นายเฉลิมวงศ์ ไปรับยาบ้า แล้วมาพบจุดตรวจจุดสกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกรงว่าจะถูกจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.บางเลน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดเงินสด จำนวน 300,000 บาท จากผู้ต้องหาเพื่อตรวจสอบ เนื่องจากเชื่อว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด และจะสืบสวนขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องทุกราย เพื่อจับกุมมาดำเนินคดี