เชียงราย - ไทย-ลาวจับมือสกัดยาเสพติด ผบ.กองกำลังผาเมืองเสนอแผนลาดตระเวนร่วม หลังสถิติยานรกพุ่งทั้งยาบ้า-ไอซ์-เฮโรอีน ขนจากแหล่งเดิมผ่านลาวก่อนลอบส่งเข้าไทย
วันนี้ (15 ก.ย. 65) พล.ต.ศุภฤกษ์ สถาพรผล ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ในฐานะประธานชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนไทย-สปป.ลาว พลจัตวา กูด พรมมา หัวหน้าการทหาร กองบัญชาการทหารแขวงไซยะบุรี ในฐานะหัวหน้าชุดฯ พื้นที่ภาคเหนือของ สปป.ลาว ได้เป็นประธานร่วมการประชุมชุดประสานงานฯ ครั้งที่ 2/2565 ที่จัดขึ้น ณ ห้องประชุมหอฝิ่น อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศในทุกระดับ และแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-สปป.ลาว ร่วมกัน
โอกาสนี้ ตัวแทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ไทย ได้สรุปสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศว่าปีงบประมาณนี้มีการตรวจยึดยาบ้าได้รวมกันมากถึงประมาณ 631 ล้านเม็ด ไอซ์ 18,959 กิโลกรัม เฮโรอีน 3,562 กิโลกรัม ฯลฯ
แหล่งผลิตส่วนใหญ่ยังคงอยู่ที่เดิมโดยไม่ปรากฏแหล่งอื่น ยกเว้นยาเสพติดประเภทเคตามีนในประเทศที่ไม่เคยผลิตมาก่อน ยังมีการลักลอบขนสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์เข้าไปได้ กรณียาบ้าพบว่านอกจากภาคเหนือของไทยจะตรวจยึดได้ครั้งละจำนวนมากแล้ว ช่วงหลังยังมีการจับกุมและตรวจยึดใน สปป.ลาวมากขึ้น หลายครั้งสามารถตรวจยึดได้กว่า 20-30 ล้านเม็ด
ขณะที่กองกำลังผาเมืองรายงานว่าในปี 2565 นี้มีการตรวจยึดยาบ้าพื้นที่ภาคเหนือของไทยได้แล้ว 26,721,042 เม็ด ไอซ์ 226 กิโลกรัม เฮโรอีน 38 กิโลกรัม เคตามีน 100 กิโลกรัม ห้วงเดียวกัน สปป.ลาวสามารถสกัดกั้นยาเสพติดได้ โดยยึดยาบ้าได้ 111,064,000 เม็ด ไอซ์ 2,127 กิโลกรัม และเฮโรอีน 7,225 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่ทาง สปป.ลาว ประกาศปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ
อย่างไรก็ตาม ห้วงที่ผ่านมายังคงปรากฏข่าวสารความพยายามในการลักลอบขนจากแหล่งผลิตผ่านพื้นที่ของ สปป.ลาว เพื่อนำเข้าสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ทางฝ่ายไทยจึงขอความร่วมมือแขวงบ่อแก้ว และแขวงไซยะบุรีกวดขันและสกัดกั้นเพื่อประโยชน์ของทั้ง 2 ประเทศ
ด้าน พล.ต.ศุภฤกษ์ได้ขอบคุณทาง สปป.ลาว ที่ให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดนไทย-ลาว โดยปีที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรม 12 ครั้ง ใน 10 คู่หมู่บ้าน จากทั้งหมด 11 คู่หมู่บ้าน เหลือเพียงบ้านปางมอญ เมืองคอบ แขวงไซยะบุรี กับบ้านฮวก ต.ภูซาง อ.ภูซาง จ.พะเยา ที่ยังไม่ได้ดำเนินการ เนื่องจากไม่ได้รับสั่งการจากเจ้าเมืองจึงขอความร่วมมือฝ่ายลาวช่วยผลักดันให้มีการจัดกิจกรรมเพื่อกระชับความสัมพันธ์ในระดับท้องถิ่น
รวมทั้งขอให้มีการจัดลาดตระเวนร่วมบริเวณแนวชายแดนระหว่างเจ้าหน้าที่ไทย-ลาว ในระดับหน่วยเฉพาะกิจ กับกองบัญชาการทหารเมือง เพื่อป้องปรามการกระทำความผิดกฎหมายในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านยาเสพติด การลักลอบตัดไม้ทำลายป่าหรือสินค้าหนีภาษี อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
ทั้งนี้ พลจัตวา กูด ได้รับจะนำไปพิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไป โดยยืนยันว่าที่ผ่านมาสถานการณ์ชายแดนไทย-สปป.ลาวมีความสัมพันธ์ที่ดีและไม่เกิดปัญหาเรื่องต่างๆ มายาวนาน จึงควรมีความร่วมมือกันเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว และเสนอให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ร่วมติดตามขบวนการค้ายาเสพติดและประสานความร่วมมือกันต่อไป