xs
xsm
sm
md
lg

ปิดคดีเพลิงไหม้ “โซเนวา คีรี รีสอร์ท” เกาะกูด ตำรวจตั้ง 4 ข้อหาหนักเจ้าของโรงแรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตราด - ผู้ช่วย ผบ.ตร.นำทีมแถลงปิดคดีเพลิงไหม้โรงแรมโซเนวา คีรี รีสอร์ท เกาะกูด ตั้ง 4 ข้อหาหนักเจ้าของโรงแรมชาวไทย 1 ราย ต่างชาติ 2 รายที่ได้หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว ขณะญาติผู้เสียหายเตรียมฟ้องร้องต่อไป

เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (30 มิ.ย.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปกรณ์ มณีปกรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด ได้แถลงปิดคดีเพลิงไหม้โรงแรมโซเนวา คีรี รีสอร์ท อ.เกาะช้าง จ.ตราด ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 รายจากการตกจากที่สูง และยังทำให้ทรัพย์สินของผู้เข้าพักเสียหายรวมประมาณ 34 ล้านบาท

พล.ต.ท.สมพงษ์ เผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งดำเนินการสอบสวนเพื่อหาข้อสรุปทางคดี เนื่องจากโรงแรมที่เกิดเหตุมีชื่อเสียงในระดับสากลจึงย่อมส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ โดยตำรวจภูธรจังหวัดตราด ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน

กระทั่งพบว่า บริษัท ทรอพพิคอล ไอซ์แลนด์ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจโรงแรมภายใต้ชื่อ โซเนวา คีรีรีสอร์ท ได้นำกลุ่มอาคารห้องพักพูลวิลล่า 63 ห้อง ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร และนำอาคาร ใช้ประกอบกิจการโรงแรมโดยไม่แจ้งนายทะเบียน


และยังพบว่าบริษัทฯ ขาดการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าจนเกิดเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่โรงแรมทราบดีอยู่แล้วว่าระบบแจ้งเตือนไฟไหม้ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในการยับยั้งตันเหตุใช้การไม่ได้แต่กลับไม่มีการซ่อมแซมแก้ไข และเมื่อเกิดเหตุจึงไม่สามารถระงับยับยั้งเพลิงไม่ให้ลุกลามใหญ่โตได้

โดยการกระทำดังกล่าวของบริษัท ทรอพพิคอล ไอซ์แลนด์ จำกัด เป็นความผิดใน 4 ข้อหาคือ 1.กระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทจนเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย 2.กระทำโดยประมาทอันน่าจะเป็นอันตรายแก่ชีวิตบุคคลอื่น

3.กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และ 4 ร่วมกันนำอาคารซึ่งไม่เป็นอาคารควบคุมการใช้หรือยินยอมให้บุคคลใดใช้อาคารดังกล่าวเพื่อกิจการโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น

ทั้งนี้ บริษัท ทรอพพิคอล ไอซ์แลนด์ จำกัด มีกรรมการผู้มีอำนาจ จำนวน 3 คน และ 1 ใน 3 คนเป็นคนไทยซึ่งได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ส่วนอีก 2 คนเป็นชาวต่างชาติที่ขณะนี้ได้หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับและประสานให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว


ด้าน พล.ต.ต.ปกรณ์ มณีปกรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตราด ได้ขอความร่วมมือไปยังเจ้าของผู้ประกอบกิจการโรงแรมในพื้นที่ ให้ความสำคัญดำเนินงานตามมาตรฐานความปลอดภัย และควรมีอุปกรณ์ตรวจจับควัน สปริงเกอร์ กริ่งสัญญาณเตือนภัยและอุปกรณ์ในการดับเพลิงต่างๆ ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งานเพื่อความมั่นใจของนักท่องเที่ยว

ขณะที่ นายชัยนันท์ ประเสริฐวิทย์ น้องชายของแพทย์หญิงซึ่งเป็น 1 ในเหยื่อเพลิงใหม่ได้เข้ามอบกระเช้าขอบคุณผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตราด และทีมสอบสวนที่ทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาจนได้รับความเป็นธรรม พร้อมบอกว่าในวันเกิดเหตุตนเองและน้องสาวได้เล่นน้ำกันอยู่ที่สระน้ำกระทั่งเวลา 23.00 น.จึงพากันแยกย้ายเข้าห้องพักกระทั่งช่วงเช้ามืดของวันถัดมาจึงได้ยินเสียงตะโกนว่าเกิดเพลิงไหม้ ต่างคนจึงต่างหลบหนีเพื่อเอาตัวรอด

และเนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก จึงไม่สามารถนำทรัพย์สินมีค่าที่ประกอบด้วย นาฬิกายี่ห้อริซาร์ตมิล อัญมณีและอุปกรณ์ไอทีต่างๆ แหวนเพชรและทรัพย์อื่นๆ มูลค่ากว่า 30 ล้านออกมาได้ โดยเฉพาะข้อมูลงานวิจัยที่อยู่ในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ต้องสูญเสียไปด้วย

“หลังเกิดเหตุทางโรงแรมไม่ได้ติดต่อที่จะให้ความช่วยเหลือหรือแสดงความรับผิดชอบใดๆ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.ตราดได้เข้ามาทำสำนวนคดีจนพบว่าเป็นเรื่องของความประมาทเพราะหลักฐานการสอบสวนที่ชี้ชัด และหลังจากนี้ทางครอบครัวจะได้นำสำนวนคดีไปฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อไป” น้องชายแพทย์หญิงเหยื่อเพลิงใหม่ กล่าว






กำลังโหลดความคิดเห็น