จันทบุรี - ส่งออกทุเรียนไทยมีสะเทือน หลังเวียดนาม-ลาวยื่นเรื่องต่อทางการจีนขอส่งผลทุเรียนสดขายแข่งแล้ว รองนายกสมาคมการค้าธุรกิจเกษตรไทย-จีน เตือนหากยังปล่อยขบวนการสวมสิทธิทุเรียนด้อยคุณภาพส่งขายลอยนวลเจอกดราคารับซื้อแน่นอน
จากกรณีที่ด่านตรวจพืชมุกดาหาร ได้สกัดรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 2 คัน ที่นำทุเรียนเตรียมส่งขายประเทศจีน หลังพบความผิดปกติหลายอย่าง เช่น ทุเรียนบรรจุไม่เต็มตู้ และยังมีทุเรียนด้อยคุณภาพอย่างรุนแรงจนต้องตีกลับมายังล้งต้นทางในพื้นที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โดยเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำของขบวนการสวมสิทธิทุเรียนส่งขายต่างประเทศนั้น
วันนี้ (30 มิ.ย.) นายณัฐกฤษฎ์ โอฬารหิรัญรักษ์ รองนายกสมาคมการค้าธุรกิจเกษตรไทย-จีน เผยถึงผลกระทบที่เกิดจากผู้ประกอบการบางรายที่พยายามส่งออกทุเรียนด้อยคุณภาพไปยังประเทศจีนจนถูกด่านตรวจพืชมุกดาหารตีกลับ ว่าได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการล้งส่งออกผลไม้ของไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะต้องได้รับการตรวจสอบที่เข้มงวดมากกว่าเดิม
“เมื่อวานนี้ได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการทุเรียนในพื้นที่ภาคใต้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทุเรียนเพื่อการส่งออกก่อนปิดตู้สินค้ามากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซ้อนที่อาจจะสร้างความเสียหายต่อผู้ประกอบการในภาพรวม”
นายณัฐกฤษฎ์ ยังเผยถึงการสวมสิทธิทุเรียนไทยส่งขายต่างประเทศว่าเกิดขึ้นมานาน 2-3 ปีแล้ว หลังราคาทุเรียนส่งขายต่างประเทศสูงกว่าราคาขายในประเทศไทยถึงเกือบเท่าตัว ขณะทุเรียนที่ถูกนำมาสวมสิทธิเป็นทุเรียนจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีการนำเข้ามาเป็นตู้คอนเทนเนอร์และมีการแสดงเอกสารเพื่อแปรรูป
"เมื่อทุเรียนเหล่านี้มาถึงล้งส่งออกในประเทศไทย ผู้ประกอบการจะทำการเปลี่ยนกล่องส่งออกใหม่ หรือบางรายอาจนำเข้าโรงงานแปรรูปและเปลี่ยนกล่องในโรงงานแปรรูปส่งออกเป็นผลไม้สด ซึ่งที่ผ่านมาขบวนการนี้ได้อาศัยช่องว่างที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ติดตามไปตรวจสอบภายในโรงงานว่าทุเรียนที่นำเข้ามาถูกนำไปแปรรูปจริงหรือไม่ จึงพบว่ามีทุเรียนถูกนำออกมาเวียนขายเป็นทุเรียนสดในท้องตลาดจำนวนมาก"
นายณัฐกฤษฎ์ ยังเผยอีกว่า ขณะนี้ผู้ปลูกทุเรียนในประเทศเวียดนามและลาวกำลังยื่นเรื่องผ่านทางการจีน เพื่อขอนำทุเรียนผลสดเข้าไปขายเช่นเดียวกับไทย และมีแนวโน้มว่าจะได้รับการอนุญาต ซึ่งหากถึงวันนั้นวงการส่งออกทุเรียนไทยย่อมได้รับผลกระทบด้านราคาขายอย่างแน่นอน
“เตรียมตัวได้เลยเพราะราคาส่งออกของไทยจะถูกปรับลดลงแน่ เนื่องจากการมีคู่แข่งที่สำคัญทั้ง 2 ประเทศที่สามารถขายทุเรียนได้ต่ำกว่าไทย เพราะข้อได้เปรียบเรื่องค่าขนส่งที่ถูกกว่าและระยะเวลาการเดินทางที่ใกล้กว่าไทยมาก” นายณัฐกฤษฎ์ กล่าว
