ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกเมืองพัทยา เร่งแจงเหตุนำแผงเหล็กปิดกั้นพื้นที่รอยต่อชายหาดนาจอมเทียน อ.สัตหีบ กับชายหาดจอมเทียน เมืองพัทยา เพื่อป้องกันปัญหาผู้ประกอบการถูกทวงคืนพื้นที่บุกรุกหลังถูกชาวเน็ตตั้งข้อกังขาแบ่งพื้นที่สาธารณะอาจทำเสียภาพลักษณ์ท่องเที่ยว
จากกรณีเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา เมืองพัทยา โดยเจ้าหน้าที่เทศกิจเขตรับผิดชอบชายหาดจอมเทียน ได้นำแผงเหล็กจำนวนหนึ่งมาปิดกั้นบริเวณแนวเขตระหว่างรอยต่อชายหาดนาจอมเทียน อ.สัตหีบ ด้วยหวังแสดงเขตรับผิดชอบบนพื้นที่ชายหาด ระหว่างเทศบาลตำบลนาจอมเทียนกับเมืองพัทยา
เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประกอบการหรือบุคคลใดบุกรุกเข้ามาหากินในพื้นที่ชายหาดสาธารณะซึ่งอยู่ในเขตรับผิดชอบของเมืองพัทยา หลังเทศบาลตำบลนาจอมเทียน ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายในการทวงคืนพื้นที่สาธารณะชายหาดนาจอมเทียน จากกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่เข้ามามาจับจองพื้นที่จำหน่ายสินค้าบนชายหาดจนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
วันนี้ (28 มิ.ย.) นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายกฤษณะ บุญสวัสดิ์ รองนายกเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่เทศกิจ ได้ลงพื้นที่บริเวณจอมเทียนซอย 19 ซึ่งเป็นพื้นที่แนวเขตรอยต่อระหว่างชายหาดนาจอมเทียน และชายหาดจอมเทียน เพื่อชี้แจงกับสื่อมวลชนถึงกรณีที่มีการนำแผงเหล็กมาปิดกั้นพื้นที่รับผิดชอบระหว่าง 2 ชายหาด หลังถูกสังคมมองว่าไม่เหมาะสมและอาจจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว
โดย นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เผยว่า จากปัญหาการบุกรุกพื้นที่ชายหาดนาจอมเทียน อ.สัตหีบ ของกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าจนเกิดปัญหาตามมาหลายด้านและยังทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้พื้นที่สาธารณะเพื่อการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้เมืองพัทยา ต้องนำแผงเหล็กมาปิดกั้นแนวเขตระหว่างเขตรับผิดชอบเมืองพัทยากับชายหาดนาจอมเทียน
เพื่อเป็นการแสดงแนวเขตพื้นที่รับผิดชอบของเมืองพัทยา ป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ประกอบการที่ถูกผลักดันจากมาตรการทวงคืนพื้นที่ชายหาดของเทศบาลตำบลนาจอมเทียน รุกล้ำเข้ามาบริเวณชายหาดที่อยู่ในความรับผิดชอบ
นายปรเมศวร์ ยังยืนยันว่าปัจจุบัน เมืองพัทยา ยังไม่มีนโยบายให้นำสินค้าวางขายบริเวณชายหาด เพียงแต่อนุโลมให้มีการประกอบกิจการร่มเตียงได้เท่านั้น และยังมีการสงวนพื้นที่ชายหาดบางส่วนไว้ให้เป็นพื้นที่สันทนาการสำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยว
ขณะที่การนำแผงเหล็กมาปิดกั้นบนชายหาด เพื่อต้องการให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมถึงผู้ประกอบการได้ทราบแนวเขตระหว่าง 2 เทศบาล ซึ่งเจ้าหน้าที่จะใช้เวลาปิดกั้นแนวเขตเพียง 1 ชั่วโมงก่อนจะนำแผงเหล็กออกและเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาพักผ่อนทั้งบริเวณชายหาดนาจอมเทียน และชายหาดจอมเทียน สามารถดำเนินกิจกรรมได้ตามปกติ
“หลังจากนี้ เมืองพัทยาและเทศบาลตำบลนาจอมเทียน จะได้มีการประชุมหารือร่วมกันอีกครั้งเพื่อพัฒนาพื้นที่ชายหาดทั้ง 2 แห่งให้มีความสวยงาม และสนับสนุนการท่องเที่ยวร่วมกันต่อไป” นายกเมืองพัทยา กล่าว
