อุบลราชธานี - ศาลจังหวัดอุบลราชธานี อนุมัติหมายจับ น.ส.ฟองน้ำ เชิดเงินออม 600 ล้าน ขณะที่เจ้าตัวโพสต์ยอมรับผิดคนเดียว วอนหยุดคุกคามคนในครอบครัว ขณะเบาะแสคาดหนีไปเวียดนามแล้ว
จากกรณีผู้เสียหายออมเงินบ้านฟองน้ำ นับ 100 รายทยอยเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อดำเนินคดีต่อนางสาวปิยะธิดา หรือฟองน้ำ อุปริวงศ์ อายุ 25 ปี ที่ทำตัวเป็นไฮโซสาวชาวจังหวัดอุบลราชธานี เชิญชวนมาลงทุนออมเงิน โดยให้ผลตอบแทนเป็นกำไรร้อยละ 5 ต่อ 15 วัน และร้อยละ 10 ต่อเดือน จนมีผู้หลงเชื่อร่วมออมเงินกว่า 400 ราย คิดเป็นยอดเงินกว่า 600 ล้านบาท สุดท้ายหนีหายตามที่มีการนำเสนอไปแล้ว
ล่าสุดศาลจังหวัดอุบลราชธานีอนุมัติหมายจับนางสาวปิยะธิดา หรือฟองน้ำ ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน โฆษณาหรือประกาศให้ปรากฏต่อประชาชนหรือกระทำด้วยประการใดๆ
นอกจากนี้ หลังมีผู้เสียหายติดตามไปตามบ้านญาติ หรือคนรู้จักของ น.ส.ฟองน้ำ ก็ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงว่า ก่อนอื่นน้ำน้อมรับทุกอย่างที่ผิดพลาด น้ำขอโทษทุกคน น้ำไม่เคยหนีไปไหน น้ำไม่เคยมีเจตนาโกงใคร ไม่เคยทำสิ่งไม่ดีและไม่เคยนำเงินใครไปยุ่งเกี่ยวกับการพนัน*
ตอนนี้มีทั้งคนจริง ที่พร้อมจะเข้าใจ และให้เวลาน้ำ น้ำขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ และคนที่ปั่นน้ำ หยุดได้ก็หยุดนะคะน้ำขอร้อง คุณไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร ตอนนี้ชีวิตน้ำยังพังไม่พอให้คุณสะใจใช่ไหม คุณปั่นทุกอย่างจนชีวิตน้ำพัง ถ้าน้ำเคยไปทำไรไม่ดีให้คุณไม่พอใจ ควรมาคุยกับน้ำตรงๆตัวๆ อย่าลามปามไปถึงครอบครัว
คนที่ผิดพลาดคือน้ำ ทุกคนลงที่น้ำไม่ต้องไปทักหาใคร น้ำพยายามจะแจ้งทุกคน แค่น้ำตอบไม่ทันตอนนี้หลายๆ คนในครอบครัวจะฆ่าตัวตายอยู่แล้ว ขอร้อง มีอะไรลงที่น้ำคนเดียว แต่ถ้าเอากฎหมายมาเล่นน้ำน้ำก็แค่เดินเข้ากรง ทุกคนก็คือเสียผลประโยชน์ตั้งแต่ยังไม่ให้โอกาสให้น้ำลองได้สู้* สิ่งสุดท้ายที่น้ำจะขอ ถือว่าขอกันเลยจริงๆ อย่าก้าวก่ายถึงครอบครัวน้ำ หมาของน้ำ และครอบครัวแฟนเลยค่ะมีอะไรคุยกับน้ำ เพราะเขาไม่ได้มารับเรื่องเองหรือรู้เรื่องตั้งแต่แรก
สุดท้ายแล้วคนที่ต้องแก้ปัญหาคือน้ำคนเดียวเท่านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นมันแย่แล้วควรทำให้ดีขึ้นไปด้วยกัน เพราะลุยกันมานานแล้ว ไม่ต้องการให้ใครต้องแย่ไปมากกว่านี้แล้วค่ะ น้ำจะตามโทร.กลับทุกคน น้ำสัญญา
ขณะที่ผู้เสียหายนำโดยนางสาวภคมน ปักสำโรง อายุ 32 ปี ได้ออกติดตามหาตัวนางสาวปิยะธิดา หรือฟองน้ำ นายวุฒินันท์ หรือเต้อ อายุ 23 ปี และนางสาวเพ็ญนุภา หรือออย อายุ 23 ปี น้องชาย น้องสะใภ้ ตามบ้านพักญาติ และบ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขตตำบลขามใหญ่ แต่ก็ไม่พบมีเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแจ้งว่าเจ้าของบ้านได้ให้คนมาขนของออกไปตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.และยังไม่เห็นกลับเข้ามา และมีตำรวจจากหลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวด้วย
ด้านนางสาวเก๋ (นามสมมติ) ญาติสนิทของนางสาวปิยะธิดาที่เคยไปอาศัยอยู่ด้วย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้นางสาวปิยะธิดา และน้องชายพักอาศัยอยู่ที่บ้านเดียวกับตน แต่ต่อมาทั้งหมดย้ายออกไปซื้อบ้านหรู ซึ่งไม่ไกลกัน กลับมาหาบ้างเป็นครั้งคราวเท่านั้น
นางสาวเก๋ยังเล่าอีกว่า นอกจากตนจะเป็นญาติกับนางสาวปิยะธิดาแล้ว ตนเองยังเป็นผู้เสียหายที่นำเงินกว่า 3 ล้านบาทลงทุนกับนางสาวปิยะธิดา โดยที่ตนเองไม่ทราบมาก่อนว่านางสาวปิยะธิดาได้ไปโกงลูกออมเอาไว้ด้วย เพราะตนเองก็มาทราบพร้อมกันกับทุกคนเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่านางสาวปิยะธิดาหนีไปแล้ว
ทำให้ตนต้องหาเงินไปใช้หนี้เช่นกัน และหลังจากที่นางสาวปิยะธิดาหลบหนี ติดต่อไม่ได้ บรรดาลูกออมที่ต้องการเงินคืนก็มาตามนางสาวปิยะธิดาที่บ้านของตน บางรายมาด้วยความสุภาพ บางรายบุกรุกเข้ามาในบ้านทำให้ตนเองรู้สึกไม่ปลอดภัย ทั้งที่ตนเองก็ไม่มีส่วนรู้เห็นการโกงแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพื่อนบ้านใกล้เคียงบ้านของนางสาวปิยะธิดา เปิดเผยว่า นายเต้อ น้องชายเป็นคนที่น่ารักมีมารยาท แต่อาจจะเสียเพราะคนในครอบครัวบางคน ทำให้ต้องเป็นเรื่องแบบนี้ ที่ผ่านมานางสาวปิยะธิดา นายเต้อ และแฟนสาวจะมีรถหรูคันสวยๆ มาส่งที่บ้านตลอด และเปลี่ยนรถบ่อยมาก ส่วนเรื่องออมเงินเพื่อนบ้านทราบกันมานานแล้วมีคนมาตามหาหลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นข่าวแบบนี้
ขณะที่ชุดสืบสวนที่ติดตามคดีนี้กล่าวว่า เบาะแสล่าสุดคาดว่า น.ส.ฟองน้ำ น้องชาย น้องสะใภ้ ได้หลบหนีไปยังประเทศเวียดนามผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อบ่ายวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมาแล้ว
