เชียงราย - ผบ.ตร.สั่ง “บิ๊กโจ๊ก” คุมทั้งสืบและสอบคดี 4 ตำรวจเชียงรายระดับรอง ผกก.-ชั้นประทวนเอี่ยวรับเงินแก๊งจีนลวงสาวไทย-ลาวถ่ายหนังโป๊-ไลฟ์สดเผยแพร่แอปฯ ดังจีน คนแห่ดูถึง 3,700,000 วิว เผยสุดวิตถารเปิดแชตให้ร่วมเพศรูปแบบต่างๆ เปลี่ยนคู่สารพัด จ่ายค่าจ้างชาย 500 หญิง 2,000 บาท
วันนี้ (24 มิ.ย. 65) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร.หัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต ตร., พล.ต.ต.พิเชษฐ์ จิระนันตสิน รอง ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมดำเนินคดีต่อตำรวจเชียงราย 4 นาย
ประกอบด้วย นายตำรวจยศ พ.ต.ท. อายุ 42 ปี ปฏิบัติหน้าที่รอง ผกก.กก.สส.ภ.จว.เชียงราย และนายตำรวจยศ ร.ต.อ. สังกัด กก.สส.ภ.จว.เชียงราย 2 นาย ยศ ส.ต.อ. อีก 1 นาย ในข้อหา "เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือมาหาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น, ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต"
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวว่า การดำเนินคดีต่อตำรวจทั้ง 4 นายมีขึ้นเนื่องจากสืบทราบว่าได้มีขบวนการชาวจีนมีการถ่ายทำวิดีโอการร่วมเพศในพื้นที่ จ.เชียงราย ไปยังแอปพลิเคชันของจีนชื่อ "จู้โส่ว" ซึ่งมีชื่อเสียงและมีคนติดตามการร่วมเพศดังกล่าวมากถึงประมาณ 3.7 ล้านคน มีการถ่ายทอดสดการร่วมเพศทั้งกลางวันและกลางคืน และเปิดให้คนดูแชตแจ้งเปลี่ยนท่า-เปลี่ยนคู่สารพัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมกลุ่มขบวนการดังกล่าว ที่นำโดยชาวจีนและมีคนไทย-ลาวร่วมด้วยจำนวนหนึ่ง
เมื่อสอบสวนก็ทราบว่าการจัดให้มีการร่วมเพศและเผยแพร่ทางแอปพลิเคชันดังกล่าวทำให้มีรายได้ครั้งละ 500,000-800,000 บาท วันละอย่างน้อย 2 ครั้ง ซึ่งถือว่ามหาศาลแต่มีการแบ่งให้เหยื่อที่ถูกหลอกให้ไปแสดงการร่วมเพศเป็นชายครั้งละ 500 บาท หญิงครั้งละ 2,000 บาท
และจากการสอบสวนชาวจีนกลุ่มนี้พบว่าได้หลบหนีเข้าไทยทางช่องทางธรรมชาติเนื่องจากเคยไปกระทำอย่างเดียวกันใน สปป.ลาว แล้วถูกเจ้าหน้าที่ลาวปราบปรามอย่างหนัก แต่เมื่อเข้ามายังประเทศไทยได้ก็ก่อเหตุเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ได้มีการจ่ายเงินให้กับตำรวจไทยที่เข้าไปตรวจค้นครั้งแรกก่อน 800,000 บาท จากนั้นถูกเรียกเก็บรายละเดือนอีกเดือนละ 100,000 บาท
หลังจากทราบเรื่องตนจึงรายงานให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้รับทราบ กระทั่งมีคำสั่งให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และแต่งตั้งให้ตนเป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนและสอบสวนในคดีนี้ด้วย เพราะคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์มักเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐทุกครั้ง จึงต้องไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายไม่ใช่มาทำผิดเสียเอง
อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีนี้หลังจากได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อตำรวจทั้ง 4 นายไปแล้วพบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดได้ให้การปฏิเสธและได้ประกันตัวออกไปสู้คดี โดยจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น ส่วนการจะให้ออกจากราชการไว้ก่อนหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ ที่จะต้องดูต่อไปว่าผู้ต้องหาจะไปกระทำการใดๆ ที่จะมีผลต่อรูปคดีหรือไม่ แต่ในทางคดีก็จะแจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และรอให้ทาง ป.ป.ช.แจ้งให้ดำเนินการทางคดีต่อไป
ผช.ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า ด้านเหยื่อจากขบวนการนี้ได้มีการช่วยเหลือแล้ว 29 คน เป็นผู้ใหญ่ 16 คน แบ่งเป็นชายและหญิงอย่างละ 8 คน เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 13 คน เป็นชาย 6 คน หญิง 7 คน ส่วนใหญ่ไม่ได้เต็มใจหรือสมัครใจจะมากระทำเช่นนี้ แต่ถูกหลอกบังคับมาให้ทำ
ทางเจ้าหน้าที่จึงจะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลเรื่องจิตใจ ดูแลเรื่องการเยียวยาค่าเสียหายต่างๆ กรณีเป็นคนลาวก็จะส่งกลับประเทศ ส่วนกรณีเป็นคนไทยก็จะส่งกลับภูมิลำเนา ซึ่งตนขอเตือนให้พ่อแม่ผู้ปกครองหรือผู้เกี่ยวข้องได้เฝ้าระวังอย่าได้หลงตกเป็นเหยื่อของขบวนการเหล่านี้เพราะจะทำให้เด็กได้รับความทุกข์ไปตลอดชีวิต
สำหรับขบวนการชาวจีนดังกล่าวถูกจับกุมได้ขณะทำการถ่ายทำการร่วมเพศระหว่างชายกับหญิงหลายคู่ที่เชียงราย โฮมสเตย์ รีสอร์ต พื้นที่ ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้แล้วจำนวน 16 คน เป็นคนจีน 9 คน ลาว 4 คน และไทย 3 คน มีทั้งรองผู้จัดการที่เป็นคนดูแลการถ่ายทำและเผยแพร่ไปยังแอปพลิเคชัน ผู้จัดหานักแสดงชาวไทยและลาว ดูแลนักแสดง จ่ายค่าจ้าง จัดหาสถานที่ และอื่นๆ
แต่มีผู้หลบหนีไปได้ 1 คน ทราบชื่อคือนาย UU Guotro หรือเออเกอร์ ซึ่งเป็นผู้จัดการขบวนการ ซึ่งทาง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ระบุว่าได้มีการออกหมายจับและแจ้งไปยังตำรวจสากลเพื่อติดตามจับกุมแล้ว และก่อนถูกจับกุมขบวนการนี้เคยไปถ่ายทำในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ใกล้เคียงกันมาแล้ว แต่ไม่ถูกจับกุมหลังมีการจ่ายเงินให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทาง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์มาตรวจสอบพบว่ามีการจ่ายให้ตำรวจในพื้นที่จนมีการดำเนินคดีต่อตำรวจทั้ง 4 นายดังกล่าว