เพชรบูรณ์ - ลูกชายชาวไร่อ้อยวิเชียรบุรีเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เผยพ่อเพิ่งกู้เงินเตรียมซื้อรถตัดอ้อย ได้เช็คจากโรงงานน้ำตาล-เอาเงินเข้าบัญชีได้วันเดียว รุ่งขึ้นโดนโทร.หลอกโอนเงินสูญหมดบัญชีกว่า 4 ล้าน แถมพบชาวไร่อ้อยหลายคนที่กู้เงินได้ โดนโทร.ป่วนหลอกโอนเงินเหมือนกัน
ความคืบหน้ากรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “นัท รัศมีน้ำแข็ง” ได้โพสต์รูปภาพสลิปโอนเงินจำนวนหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า..“ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องนี้กับคนในครอบครัว ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงิน สูญเสียถึง 4,000,000 บาท++ (สี่ล้านบาท) บทเรียนครั้งสำคัญที่ยิ่งใหญ่มาก” และวันนี้ (19 มิ.ย. 65) ผู้เสียหายได้เดินทางมาร้องทุกข์ที่ สภ.วิเชียรบุรี ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์
ซึ่งผู้เสียหายคือ นายชัยรัตน์ ถิตย์รัศมี อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 หมู่ที่ 11 ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ แจ้งต่อ ร.ต.อ.หญิง อัมภา อยู่ปูน เจ้าพนักงานสอบสวน สภ.วิเชียรบุรี ว่ามีผู้หญิงอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากร จ.กระบี่ โทร.มาแจ้งว่าตนมีส่วนรู้เห็นในขบวนการขนของเถื่อน-ของหนีภาษี และขบวนการฟอกเงิน 24 ล้าน
จากนั้นได้พูดจากดดันตนทุกอย่างว่ามีส่วนรู้เห็น และมีหลักฐานยืนยันว่าตนมีส่วนร่วมในขบวนการดังกล่าว และจะให้เจ้าหน้าที่ทักมาคุยรายละเอียดกันทางไลน์ ทำให้ตนรู้สึกเครียดมาก ต่อมาบุคคลดังกล่าวเสนอให้ตนโอนเงินเข้าบัญชีตามสลิปเพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดี
“ด้วยความไม่อยากถูกจับดำเนินคดี ผมจึงหลงเชื่อและโอนเงินตามที่บอกทั้งหมด 7 ครั้ง ตั้งแต่ 6 โมงเย็นเศษจนถึง 2 ทุ่มกว่า โดย 2 ครั้งแรกได้โอนเงินไปครั้งละ 1,999,999 บาท รวมแล้วทำให้สูญเงินไปกว่า 4 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินกู้จากโรงงานน้ำตาลเตรียมจะนำไปซื้อรถตัดอ้อย”
นายนัทพงษ์ ถิตย์รัศมี ซึ่งเป็นลูกชายผู้เสียหาย เปิดเผยว่า พ่อของตน คือ นายชัยรัตน์ ถิตย์รัศมี มีอาชีพทำไร่อ้อย และได้ทำเรื่องยื่นกู้ยืมเงินจากโรงงานน้ำตาล เพิ่งไปรับเช็คเงินกู้จากโรงงานน้ำตาลเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565 และได้นำเงินไปเข้าบัญชีที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาศรีเทพ ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ต่อมาวันที่ 17 มิถุนายน 2565 ก็มีแก๊งมิจฉาชีพโทร.มาหาพ่อ หลอกให้พ่อโอนเงิน ทำให้สูญเงินจนหมดบัญชี 4 ล้านกว่าบาท
นอกจากนี้ตนยังได้ทราบข่าวจากเพื่อนๆ ว่าชาวไร่อ้อยที่กู้เงินจากโรงงานน้ำตาลก็ได้รับโทรศัพท์แปลกๆ โทร.เข้าไปหาเหมือนกันหลายราย ซึ่งลักษณะคือใช้กลอุบายหลอกให้โอนเงินไปให้ แต่ไม่มีใครหลงเชื่อโอนเงินมีเพียงพ่อของตนคนเดียวที่โอนเงิน
“อยากขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดีด้านนี้ที่มีความเชี่ยวชาญ ให้เข้ามาช่วยเหลือพ่อของผมและครอบครัว เพราะตอนนี้ทุกคนในครอบครัวเครียดมาก เงินที่พ่อกู้มาจากโรงงาน ที่ตั้งใจว่าจะเอาไปซื้อรถตัดอ้อยมาไว้ทำมาหากิน ก็ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือแก๊งมิจฉาชีพหลอกไปจนหมดบัญชี เหลือแต่หนี้”