วิกฤตเงินกีบเฟ้อส่งผลกระทบธุรกิจชายแดนไทย แนะแลกเงินกีบก่อนเข้าเที่ยวฝั่งลาว

หนองคาย-เงินกีบดิ่งหนัก จากอัตราแลกเปลี่ยน 26,000 กีบต่อ 100 บาท กลายเป็น 51,000 กีบต่อ 100 บาท
ส่งผลให้คนลาวไม่ข้ามมาฝั่งไทยมากนัก กระทบธุรกิจเมืองชายแดนของไทย รองประธานหอการค้าหนองคายชี้
คนไทยอยากนั่งรถไฟความเร็วสูงไปเที่ยวลาวต่อถึงจีนมากขึ้น จะช่วยกระตุ้นภาคท่องเที่ยวในลาวได้ดี แนะควรแลกเงินกีบก่อนเดินทาง


นางดวงใจ สุขเกษมสิน รองประธานหอการค้าจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่รัฐบาลไทยและรัฐบาลลาว เปิดด่านพรมแดนสากลให้คนไทย คนลาว ข้ามแดนไปมาหาสู่กันได้ตามปกตินั้น พบว่ายังไม่เป็นไปตามเป้าที่คาดไว้ เนื่องจากขณะนี้ทางฝั่งลาวเกิดปัญหาเงินเฟ้ออย่างหนัก กล่าวคือก่อนหน้านี้ประมาณ 26,000 กีบต่อ 100 บาท ตอนนี้ 51,000 กีบต่อ 100 บาท คนลาวที่เคยมาหนองคายก่อนโควิดจะระบาด เป็นกลุ่มคนแทบทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐีหรือคนทำงานรับเงินเดือน

แต่พอเกิดปัญหาเงินเฟ้อ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคนไทยคือคนที่ไม่มีเงินบาทเก็บไว้ หรือคนระดับกลาง จากเงินเดือน 6,000 บาท ก็เหลือเพียง 3,000 บาท ไปไหนมาไหนไม่ได้ วิธีการแก้ปัญหาคิดว่ารัฐบาลลาวเองก็ทำถูกแล้วที่เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะคนไทย เพราะว่าคนไทยส่วนใหญ่ต้องการไปนั่งรถไฟความเร็วสูง คนไทยก็จะนำเงินบาทเข้าไปจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศลาวกันมากขึ้น


นางดวงใจบอกว่าการที่นักท่องเที่ยวไทยเข้าไปเที่ยวในลาวมากขึ้น หวังว่าจะช่วยทำให้ปัญหาเงินเฟ้อของลาวดีขึ้น ซึ่งอาจต้องใช้เวลาแก้ปัญหา แต่ขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวไทยแลกเงินกีบก่อนออกเดินทาง เพราะอัตราแลกเปลี่ยนบางที่อาจไม่เท่ากัน

จากที่ทราบว่าจำนวน 51,000 กีบต่อ 100 บาท บางที่อาจจะได้แค่ 40,000 กีบต่อ 100 บาท ควรแลกเงินกีบก่อนนำไปใช้ในประเทศลาว หรือถ้าเป็นเงินบาทก็ควรถามอัตราแลกเปลี่ยนกันก่อน


แต่เชื่อว่าคนลาวปรับตัวได้เร็ว เมื่อสังเกตจากสถานการณ์โควิดดีขึ้น ลาวก็เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวได้เลย ตรวจ ATK ไม่มีก็เข้าประเทศลาวได้ เอาใจช่วยลาวให้สถานการณ์การเงินคลี่คลายโดยเร็ว

"การอยู่เมืองชายแดนอย่างหนองคายกับนครหลวงเวียงจันทน์ เมื่อเกิดปัญหาทางการเงินก็จะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจการค้าของหนองคายและจังหวัดใกล้เคียงด้วยเช่นกัน”นางดวงใจกล่าว