หนองคาย - ท้องถิ่นอำเภอเมืองหนองคายจับมือภาคประชาชน ส่งเสริมการทำธนาคารน้ำใต้ดินในพื้นที่ สร้างสมดุลสิ่งแวดล้อม เก็บน้ำไว้ใต้ดินหล่อเลี้ยงต้นไม้ได้ตลอดปี เผยไม่มีต้นทุนค่าใช้จ่ายเพราะวัสดุที่ใช้ทำล้วนหาได้ภายในบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายกิตติคุณ บุตรคุณ ปลัดจังหวัดหนองคาย, นายประทีป อุ่ยเจริญ นายอำเภอเมืองหนองคาย ได้นำผู้นำท้องถิ่นและตัวแทนภาคประชาชนติดตามการทำธนาคารน้ำใต้ดิน ที่บ้านเลขที่ 109 บ้านม่วงคำ ต.โพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย ของว่าที่ ร้อยตรี สมัย ณ หนองคาย โดยมีนายรัตนศักดิ์ รัตนมณี หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการธนาคารน้ำใต้ดิน สถาบันน้ำนิเทศศาสน์คุณ เป็นวิทยากรให้ความรู้และขั้นตอนการปฏิบัติ
ว่าที่ ร้อยตรี สมัย ณ หนองคาย เปิดเผยว่า เดิมทีพื้นที่บริเวณบ้านสวนเป็นดินลูกรัง ปลูกต้นไม้ไม่ค่อยได้ผล ต้นไม้ไม่โต พอถึงเวลาฝนตก น้ำไหลทิ้งไม่ดูดซึมลงพื้นดินด้านล่าง แม้ว่าจะเคยแก้ด้วยการนำหน้าดินปลูกมาลงแต่ก็ไม่ได้ผล ต้องหาวิธีการเพื่อแก้ปัญหา จนได้ศึกษาเรื่องการทำธนาคารน้ำใต้ดินซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถแก้ปัญหาพื้นดินและบำรุงรักษาผิวดินได้
นายรัตนศักดิ์ รัตนมณี หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการธนาคารน้ำใต้ดินฯ กล่าวว่า พื้นดินหลายแห่งเกิดปัญหาดินไม่เก็บน้ำ แม้จะเป็นช่วงหน้าฝน น้ำก็จะไหลทิ้งหมด เกิดน้ำหลากไหลเข้าท่วมพื้นที่ในตัวเมือง น้ำขังและน้ำเน่า เกิดปัญหาตามมา ธนาคารน้ำใต้ดินจะช่วยแก้ปัญหา เป็นการเก็บน้ำฝนไว้ใต้ดิน ให้ต้นไม้ได้มีน้ำและทำให้บ้านเย็น หลุมที่ขุดทำธนาคารเรียกว่าระบบธนาคารน้ำใต้ดินแบบปิด คือการขุดหลุมเปิดอากาศในดินให้มากที่สุด การที่น้ำหลากไหลทิ้งเพราะน้ำไม่ซึมลงดิน การที่น้ำจะซึมลงดินได้ก็ต่อเมื่อมีอากาศออกมา เมื่อน้ำซึมลงดินได้ต้นไม้ก็จะโต
เช่น ต้นไม้สูง 10 เมตร ก็เหมือนกับมีแท็งก์น้ำสูง 10 เมตร จะช่วยสมดุลสิ่งแวดล้อมให้กับพื้นดินได้ ซึ่งการทำธนาคารน้ำใต้ดินนั้นไม่มีค่าใช้จ่าย เน้นใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ วัสดุในบ้าน เช่น ขวดพลาสติก ท่อน้ำ ตะกร้า ก้อนหิน เศษหญ้า ใบไม้ ขุดหลุมลึกประมาณ 60 เซนติเมตร เป็นทรงกรวย หน้ากว้างประมาณ 50 เซนติเมตร จากนั้นใส่วัสดุที่เตรียมไว้โดยให้ท่อโผล่จากผิวดินเพื่อให้ระบายอากาศ ให้เกิดออกซิเจน อากาศหมุนเวียน ได้ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม
ขณะที่นายประทีป อุ่ยเจริญ นายอำเภอเมืองหนองคาย กล่าวว่า การทำธนาคารน้ำใต้ดินเป็นแนวทางที่ดีในการส่งเสริมและสนับสนุนให้แต่ละท้องถิ่นได้ดำเนินการเพื่อให้เกิดความสมดุลของสิ่งแวดล้อมให้กับพื้นดินที่ใช้ทำการเกษตร เป็นการเก็บน้ำฝนไว้ใต้ดิน ให้ต้นไม้ได้มีน้ำหล่อเลี้ยงบำรุงตลอดปี นอกจากนี้ยังช่วยทำให้บ้านเย็นอีกด้วย
