เพชรบุรี - ผบช.ภ.7 แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาฆ่า "ครูหนิง" ถ่วงน้ำ พร้อมย้ำอีกคดีในพื้นที่เมืองเพชร กรณีคนร้ายยิงเพื่อนบ้านดับ 1 เจ็บ 1 เตรียมจัดชุดไล่ล่า พร้อมฝากบอกผู้ก่อเหตุขออย่าขัดขืน
วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี พ.ต.อ.กานต์ ธรรมเกษม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี พ.ต.อ.โกศล ยามา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี พ.ต.อ.ครรชิต โขวัฒนชัย ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี พ.ต.อ.ครรชิต อำนวย ฉ่ำมะนา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา นายสุรินทร์ หรือติ๊ก พรามน้อย อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาที่ฆ่า น.ส.วนิดา อ่วมเทศ หรือครูหนิง อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นครู กศน.อำเภอแก่งกระจาน ถ่วงน้ำภายในบ่อน้ำที่หมู่บ้านดอนยาง หมู่ 1 ต.ดอนยาง อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี หลังจาก น.ส.วนิดา หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค. พร้อมด้วยรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน
โดยเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนหาข่าว จนสามารถติดตาม ยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนของ น.ส.วนิดา ได้ที่บ้านเลขที่ 13/2 ม.2 อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ซึ่งผู้ต้องหานำไปจำนำไว้เมื่อวันที่ 27 พ.ค.65 ในราคา 90,000 บาท จากการสืบสวนทราบว่านายติ๊ก ผู้ต้องหามีความสนิทสนมกับ น.ส.วนิดา น่าเชื่อว่า ผู้ต้องหาเป็นผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ขออนุมัติหมายจับ นายติ๊ก ผู้ต้องหา ซึ่งศาลอนุมัติหมายจับที่ จ.30/2565 ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย
ต่อมา ในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย จากการสอบสวน นายติ๊ก รับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ได้เดินทางมาพบ น.ส.วนิดา ที่บ้านพัก และมีปากเสียงกันจนถูกด่าทอหยาบคาย และด่าว่าไปถึงพ่อแม่ จึงเอามือบีบคอ น.ส.วนิดา จนหมดสติ ประคองร่าง น.ส.วนิดา ขึ้นรถยนต์กระบะ จากนั้นนำร่าง น.ส.วนิดา ไปทิ้งบ่อน้ำที่เกิดเหตุ ในไร่ของตนเอง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบัง พบมีผู้เกี่ยวข้องจะดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด
พร้อมกันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้เน้นย้ำในคดีอื่นๆ ในพื้นที่ กรณีคดี นายวีระ สุขเกษม อายุ 32 ปีถูกเพื่อนบ้านหัวร้อน 2 คน ใช้อาวุธปืนยิงหลายนัดจนเสียชีวิต พร้อมด้วยนายเสรี สุขบรรเทิง อายุ 60 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต ถูกยิงที่มือซ้าย และแผ่นหลังได้รับบาดเจ็บ ภายในบ้านพัก ในพื้นที่ ม.4 บ้านท่า ต.บางเก่า อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังก่อเหตุ 2 เพื่อนบ้านผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักยานยนต์หลบหนีไป
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่า คดีนี้คนร้ายมีพฤติการณ์เหิมเกริมไม่เกรงกลัวกฎหมาย ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค7 จัดชุดติดตามไล่ล่าตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายในคดีนี้โดยเร็ว ตนได้ตั้งรองผู้บัญชาการสืบสวนภาค 7 ลงมาจัดทีมชุดติดตามตัวคนร้าย หากวันนี้ไม่ได้ตัวจะส่งชุดเฉพาะกิจอินทรี 7 ลงพื้นที่ติดตามตัวคนร้ายทั้ง 2 ราย หากคนร้ายฟังอยู่ จะคิดหนีหรือต่อสู้ ทางเจ้าหน้าที่คงต้องป้องกันตัว ไม่ลังเลในการปฏิบัติงาน เพราะคนร้ายมีอาวุธ เจ้าหน้าที่จะทำงานอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย
วันนี้ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี และสืบสวนภาค 7 ดำเนินการจับกุมให้เร็วที่สุด เนื่องจากปล่อยไว้อาจไปก่อเหตุซ้ำ เบื้องต้น หมายจับออกเรียบร้อยแล้ว ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพยายามฆ่า พร้อมทั้งได้สั่งการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ยกระดับในการระดมกวาดล้างอาชญากรรมอาวุธปืน ต้องเพิ่มความเข้มในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมเปิดยุทธการในพื้นที่ จ.เพชรบุรีอีกเร็วๆ นี้
"ผู้ที่ครอบครองอาวุธปืนอาวุธสงคราม และวัตถุระเบิด ขอให้ยุติทันที ซึ่งจะส่งชุดปฏิบัติการพิเศษอินทรี 7 ลงพื้นที่มาร่วมยุทธการในครั้งนี้ด้วย ส่วนทางคดีนี้หากพบว่ามีผู้ใดให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา หรือพาหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีทั้งหมดหากตรวจสอบพบ