มหาสารคาม -ไม่เข็ดหลาบ หนุ่มชาวมหาสารคามเพิ่งพ้นโทษคดียาบ้า ออกมายิ่งเหิมหนักร่วมกับเพื่อนที่เคยรู้จักกันในคุกตั้งไลน์กลุ่มเป็นช่องทางสื่อสารสั่งซื้อขาย-นัดแนะส่งยานรกขายทั่วเมือง ตำรวจตามรวบซ้ำอีกรอบยัดคุกต่อพร้อมยึดของกลางยาบ้า 88,000 เม็ด และปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก
วันนี้ (6 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัชชัย สัตยพัฒน์ รอง ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม พ.ต.อ.นุติ ศักดิ์สุภาพ ผกก.สืบสวน ภ.จว.มหาสารคาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสุรศักดิ์ พูลเทกอง หรือนายเบล์ว อายุ 32 ปี ราษฎรตำบลเกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 88,000 เม็ด โทรศัพท์ 1 เครื่อง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก และกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 20 จำนวน 2 นัด
พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคามได้ขอหมายศาลจังหวัดมหาสารคามเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในตำบลเกิ้ง ซึ่งเป็นบ้านของนายเบล์ว พบยาบ้าจำนวน 10,000 เม็ด อาวุธปืน และกระสุนปืนลูกซอง 2 นัด ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ ซึ่งเป็นของแม่ยายนายเบล์ว
ต่อมาได้ขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านแม่ยาย ตั้งอยู่ถนนผดุงวิถี ซึ่งเปิดเป็นร้านขายส้มตำและอาหารอีสาน พบยาบ้าอีกจำนวน 78,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ที่ชั้น 2 ของตัวบ้าน โดยผู้ต้องหายอมรับว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของตน ซึ่งทำหน้าที่เป็นนักบิน ไปรับยาบ้า และนำยาบ้าไปวางตามจุดต่างๆ ได้ค่าจ้างมัดละ 1,000 บาท เคยทำมาแล้ว 4 ครั้ง แต่ละครั้งจะได้เงินประมาณ 50,000 บาท
สำหรับนายเบล์ว เคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดเมื่อปี 2562 พื้นที่ สภ.เมืองมหาสารคาม ศาลตัดสินจำคุก 1 ปี 6 เดือน ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำได้รู้จัก นายกอล์ฟ ชาวลาว และเมื่อพ้นโทษออกมาจากเรือนจำ ก็ได้ชักชวนเพื่อนที่เคยรู้จักในเรือนจำตั้งกลุ่มไลน์เพื่อใช้เป็นช่องทางสื่อสารในการลำเลียงยาเสพติด มีการว่าจ้างให้ไปวางตามจุดต่างๆ ใน 3 จังหวัด คือ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด
ส่วนเงินค่าจ้างที่ได้ก็จะนำไปใช้หนี้ที่เคยติดค้างไว้ตอนค้ายาเสพติดตั้งแต่ปี 2562 เป็นเงินประมาณ 200,000 บาท ส่วนหนึ่งก็เอามาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา มีไว้ในความครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป