มหาสารคาม - ค้าวัสดุก่อสร้างมหาสารคามโอด น้ำมันแพงทำต้นทุนค่าขนส่งพุ่ง กระทบเหล็กก่อสร้างปรับขึ้นทุกชนิด ยอดขายทรุดฮวบ ทั้งลามถึงงานรับเหมาหดหาย ขณะที่ผู้รับเหมาที่รับงานไว้ต้องรับภาระเสี่ยงขาดทุนสูง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการค้าในต่างจังหวัดอย่างรุนแรง เนื่องจากสินค้าหลายประเภทต้องอาศัยการขนส่ง จากแหล่งผลิตมายังต่างจังหวัด ซึ่งธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามเป็นอีกธุรกิจที่ได้รับผลกระทบหนัก หลังจากราคาน้ำมันปรับขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้เหล็กเส้น เหล็กรูปพรรณ ปรับขึ้นตามค่าขนส่ง
นายธนากร โยธะคง ผู้ประกอบการร้านค้าเหล็กในพื้นที่ ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม เปิดเผยว่า ราคาเหล็กมีความผันผวนสูงมาก ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ทำให้ต้นทุนค่าขนส่งเพิ่ม ทางร้านจำเป็นต้องปรับราคาขายเหล็กตามไปด้วย ซึ่งราคาเหล็กช่วงนี้ ผันผวนหนักกว่าช่วงเกิดการแพร่ระบาดโควิดที่ผ่านมา
ปกติช่วงนี้เป็นช่วงที่ประชาชนจะต่อเติมบ้าน เช่นต่อเติมครัว ทำโครงหลังคากันฝน แต่ปีนี้พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ชะลองานต่อเติมบ้านลง ทำให้ลูกค้าหายไปกว่า 30-40% จะมีก็เพียงแต่คนที่สร้างบ้านไว้แล้ว ยังสร้างไม่เสร็จ จำเป็นต้องซื้อเหล็กไปใช้ ส่วนผู้รับเหมาที่เคยเป็นลูกค้ากัน ต่างก็บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่กล้ารับงาน เพราะราคาเหล็กไม่คงที่ รับแล้วกลัวจะขาดทุน
“สอบถามผู้รับเหมาที่สั่งซื้อเหล็ก ต่างบ่นว่าไม่ไหว บางคนมาถามหาเหล็กบาง เหล็กถูก เนื่องจากผู้รับเหมารับงานแล้วราคาเหล็กปรับตัวขึ้นต้องบอกกับผู้สร้างบ้านขอปรับราคาเพิ่ม หรือขอลดสเปก เนื่องจากราคาเหล็กปรับขึ้นสูงจำเป็นต้องเพิ่มราคากับผู้จ้าง หรือไม่ก็อธิบายเหตุผล แนะนำให้ลูกค้าเลือกระหว่างเพิ่มราคากับลดสเปกลง ขณะที่บางรายได้ล็อกสเปกไว้และวางเงินแล้ว จำเป็นต้องก่อสร้างต่อ แม้ต้องขาดทุน” นายธนากรกล่าว
ทั้งนี้ ราคาเหล็กรูปพรรณขึ้นราคาเส้นละ 10-15 บาท คิดเป็นราคาปรับขึ้น 5-10% ถือว่าสูงมาก ยกตัวอย่างเหล็กกล่องขนาด 2” x 1” เดิมราคา 250 บาท ปรับขึ้นเป็น 270 บาท ล่าสุดราคาอยู่ที่ 295 บาท เหล็กกล่อง 3” x 1½” จากเดิมราคา 370 บาท ปรับขึ้นมาเป็น 390 บาท ล่าสุดราคาปรับมาอยู่ที่ 425 บาท
ขณะที่ผู้รับเหมาอีกรายกล่าวว่าแต่ก่อนตนเคยรับเหมาสร้างบ้าน สร้างหอพัก หลังจากเกิดการระบาดโควิด-19 ทำให้ราคาเหล็กเริ่มปรับสูงขึ้น มาระยะหลังราคาเหล็กได้ปรับสูงขึ้นไปอีก จำเป็นต้องเพิ่มค่าก่อสร้าง ทำให้ผู้ว่าจ้างสู้ราคาไม่ไหว จึงจำเป็นต้องหยุดรับเหมาสร้างบ้าน หันมารับต่อเติมบ้านเพื่อความอยู่รอด