เชียงราย - เครือข่ายอาสาพิทักษ์ป่า พร้อมเชียงราย 3 ตำบล รวมตัวค้าน ออป.ขึ้นทะเบียนฮุบป่า 4 พันไร่ หวั่นต้นสักเกือบหมื่นต้นโดนตัดเหี้ยน ย้ำต้องขจัดเหลือบพ้นป่า ดันเป็นป่าสงวนแห่งชาติ-ชุมชนร่วมดูแลเท่านั้น
นายประวิทย์ ธุระวร ประธานเครือข่ายราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่าภาคเหนือตอนบน (รสทป.) และกรรมการป่าชุมชน จ.เชียงราย นายอากร เจริญสิริพร ประธานชมรมรักษ์น้ำ รักษ์ป่า รักเชียงราย พร้อมผู้นำหมู่บ้านและชาวบ้าน ต.แม่ยาว อ.ดอยฮาง และ ต.ห้วยชมภู อ.เมืองเชียงราย ประมาณ 80 คน ถือป้ายข้อความ "ประกาศประชามติ คนตำบลแม่ยาว ว่าเราไม่เอาสวนป่า ออป. ขอคืนเป็นป่าสงวนแห่งชาติ" เข้ายื่นหนังสือแสดงความต้องการของชาวบ้านต่อทาง จ.เชียงราย สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตัวแทนชาวบ้านระบุว่า ก่อนหน้านี้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) ได้ดำเนินการขึ้นทะเบียนสวนป่ากับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงราย ซึ่งชาวบ้านไม่เห็นด้วยเนื่องจากทั้ง 3 ตำบลดังกล่าวมีภูมิประเทศเป็นภูเขาและป่าไม้ รวมทั้งมีต้นสักที่มีอายุกว่า 44 ปี บนเนื้อที่ประมาณ 480 ไร่ รวมกว่า 8,000 ต้น ขณะที่พื้นที่ที่มีการขอขึ้นทะเบียนอยู่บนพื้นที่ 18 แปลง กระจายกันไปตามหมู่บ้านต่างๆ รวมกันประมาณ 4,327 ไร่
ชาวบ้านจึงคัดค้าน และเรียกร้องให้ดำเนินการ 6 ข้อ คือ
1. ขอให้ป่าไม้ทุกแปลงเป็นป่าไม้ถาวรเพื่อการอนุรักษ์ไม่ใช่เพื่อการอุตสาหกรรม
2. ป่าที่ติดหมู่บ้านทางชาวบ้านต้องดูแลไฟป่าหมอกควันทุกปี ที่ผ่านมา ออป.ไม่เคยสนใจและให้ความร่วมมือ
3. แผนของ ออป. คือตัดไม้สักออกขาย และเปลี่ยนพื้นที่ป่าเป็นป่ายางพาราจึงขอให้ยุติ
4. หมดความจำเป็นที่ ออป.จะมาทำอุตสาหกรรมในพื้นที่ เพราะป่าและไม้จะต้องเป็นป่าไม้ถาวร
5. ขอให้คืนป่าให้ป่าสงวนแห่งชาติและให้ชุมชนมีสิทธิ์ในการร่วมกันดูแลอย่างเต็มที่ โดยการขอขึ้นทะเบียนป่าชุมชน
และ 6. ต้องเอาเหลือบป่าออกจากพื้นที่
นายอากรเปิดเผยว่า ชมรมฯ พยายามประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านทั้ง 3 ตำบลทราบว่าพื้นที่ป่าที่มีอยู่มีผลต่อระดับของแม่น้ำกกและลำห้วยหลายสายที่ไหลลงสู่แม่น้ำกกตลอดปี ป่ายังช่วยกรองอากาศ ยึดหน้าดิน เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าและอุ้มน้ำ ฯลฯ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ชมรมฯ จึงคัดค้านอย่างเต็มที่ในการขึ้นทะเบียนป่าทุกแปลงโดยเฉพาะการเตรียมจะตัดต้นสักกว่า 8,000 ต้น ที่มีอายุกว่า 44 ปีดังกล่าว
เบื้องต้น นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัด จ.เชียงราย ได้เดินทางมาพบปะและรับเรื่องของกลุ่มดังกล่าว และรับปากจะนำข้อมูลไปหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไปทำให้ชาวบ้านแยกย้ายกันกลับ
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา นายพลฤทธิ์ เตชะพี หัวหน้างานสวนป่าแม่ยาว-แม่ซ้าย ออป.เขตลำปาง ได้มีหนังสือถึงกำนัน ต.แม่ยาว ว่าทาง ออป.เขตลำปางได้ดำเนินการขอขึ้นทะเบียนสวนป่าต่อสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้วตามเนื้อที่ที่ชาวบ้านได้แจ้งดังกล่าว จึงได้แจ้งให้พื้นที่ได้รับทราบในรายละเอียดกระทั่งมีการเคลื่อนไหวของชาวบ้านในการคัดค้านในครั้งนี้
