สุรินทร์ - สลด! หนุ่มควบเก๋งพาครอบครัวมาจาก กทม.กลับบ้าน จ.อุบลฯ คาดหลับในพุ่งชนท้ายรถบรรทุกยางมะตอยพังยับเยิน เสียชีวิตคาซากรถ 3 ศพ พร้อมเด็กอยู่ในครรภ์เสียชีวิตด้วย บาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน เหตุเกิดบนทางหลวงหมายเลข 24 อ.สังขะ จ.สุรินทร์
วันนี้ (17 พ.ค.) ร.ต.อ.เกรียงศักดิ์ จงจำ รอง สว.สอบสวน สภ.สังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนท้ายรถบรรทุกยางมะตอย มีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายในรถบริเวณจุดกลับรถบ้านตาคง ตำบลตาคง อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ใกล้เคียงโรงเรียนบ้านตาคง บนทางหลวงหมายเลข 24 ช่วง อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ไป อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ จึงประสานกับหน่วยกู้ภัยตาดาน พร้อมอาสาสมัคร นำรถพยาบาลและอุปกรณ์ตัด-ถ่างรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีขาว ป้ายทะเบียน กร 6658 อุบลราชธานี ชนท้ายรถบรรทุกยางมะตอยยี่ห้อฮีโน่ ป้ายทะเบียน 81-6788 สุรินทร์ ของบริษัทภูศิลา ภายในรถพบผู้เสียชีวิต 3 ราย และ บาดเจ็บสาหัส 1 ราย อาสากู้ภัยตาดานใช้อุปกรณ์ตัด-ถ่างนำผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตออกจากซากรถ ก่อนส่งต่อผู้บาดเจ็บด้วยรถกู้ชีพโรงพยาบาลสังขะเพื่อรีบนำตัวไปรักษาที่ รพ.สังขะ พร้อมประสาน นพ.วรายุทธ เหลืองมณีโรจน์ แพทย์เวร รพ.สังขะ ร่วมชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ
ส่วนรายชื่อผู้เสียชีวิต 3 ราย ประกอบด้วย 1. นางสวัสดิ์ วงศ์ราช อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 16 ตำบลหนองไฮ อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี, 2. น.ส.สุภัชตรา วงศ์ราช อายุ 43 ปี กำลังตั้งครรภ์ ไม่ทราบกี่เดือน เนื่องจากท้องไม่ใหญ่มาก อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 16 ต.หนองไฮ อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี และ 3. นายวุฒิพงษ์ สร้อยมาลุน อายุ 33 ปี เป็นคนขับ อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 9 ต.ค้อน้อย ต.สำโรง จ.อุบลราชธานี ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย คือ นายณรงค์เดช กากเพชร อายุ 26 ปี
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดเป็นครอบครัวเดียวกัน เดินทางมาจาก กทม.เพื่อกลับบ้านเกิดที่ จ.อุบลราชธานี พอมาถึงที่เกิดเหตุคนขับรถน่าจะเกิดอาการหลับในก่อนพุ่งชนท้ายรถบรรทุกยางมะตอยที่กำลังจอดรถเพื่อวางกรวยสัญญาณจราจรต่างๆ หลังจากได้วางกรวยมาแล้วนับร้อยเมตร เพื่อปรับปรุงซ่อมแซมถนนบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ ขณะที่รถเก๋งขับมาพุ่งชนท้ายอย่างแรง ทำให้เกิดเหตุสลดขึ้นดังกล่าว ซึ่งสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป