ศูนย์ข่าวศรีราชา - รมช.คมนาคม มั่นใจท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรือชั้นนำในเอเชียและติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกในอนาคต โดยเน้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถอยู่ร่วมกับชาวบ้าน ชุมชนและร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ รอบท่าเรือแหลมฉบังอย่างมีความสุขและสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
วันนี้ (12 พ.ค.) ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมาเป็นประธานมอบใบรับรองระบบการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ ตามมาตรฐานสากล ISO 22301 : 2019 ณ ห้องประชุมท่าเรือแหลมฉบัง โดยมีนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย คณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เรือเอก กานต์ เมนะรุจิ รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ร.ต.อ.ธนาบดี ธูปเทียนรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง คณะผู้บริหารท่าเรือแหลมฉบัง ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี และผู้ประกอบการในท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมให้การต้อนรับ
ดร.อธิรัฐ กล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มามอบใบรับรอง ระบบการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ ตามมาตรฐานสากล ISO 22301 Version 2019 ให้ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นหน่วยงานที่มีความมุ่งมั่นและมีความตั้งใจในการพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับเหตุวิกฤตที่อาจเกิดขึ้น และส่งผลกระทบทำให้การบริการหยุดชะงัก ให้สามารถให้บริการผู้ใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง และสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจต่อผู้ใช้บริการ
การได้รับมาตรฐานดังกล่าวถือเป็นเกียรติประวัติและความภาคภูมิใจของหน่วยงาน ทั้งนี้ ต้องขอชมเชยท่านกรรมการการท่าเรือ ผู้บริหารการท่าเรือ และพนักงานทุกระดับที่ช่วยกันผลักดัน สนับสนุนให้การดำเนินการระบบการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจของท่าเรือแหลมฉบัง ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และขอให้รักษามาตรฐาน และคุณภาพการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจไว้เช่นนี้ตลอดไป
ดร.อธิรัฐ กล่าวต่อไปว่า ท่าเรือแหลมฉบังถือว่าเป็นท่าเรือหลักและเป็นประตูเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ที่สำคัญให้ประเทศ และพร้อมจะปรับปรุงท่าเรือแหลมฉบังให้เป็นท่าเรือชั้นนำในเอเชียและติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก เพื่อรองรับปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ที่เพิ่มขึ้น ตามการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศและของโลก รวมถึงรองรับเรือสินค้าขนาดใหญ่และพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งและเชื่อมโยงการขนส่งทุกรูปแบบเพื่อลดต้นทุนการขนส่งอย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนั้น ท่าเรือแหลมฉบังยังต้องเน้นด้านความปลอดภัยภายในบริเวณท่าเรือแหลมฉบังทั้งหมด รวมทั้งการบริการต้องอยู่ในระดับมาตรฐานสากล และสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือเราควรพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถอยู่ร่วมกับชาวบ้าน ชุมชนรอบท่าเรือแหลมฉบังอย่างมีความสุข และร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ รอบท่าเรือแหลมฉบังให้ทุกกิจกรรมของท่าเรือแหลมฉบังสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
"พร้อมกันนี้ ขอฝากคณะผู้บริหารท่าเรือแหลมฉบัง การท่าเรือแห่งประเทศไทย ทุกคนต้องใส่ใจในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของพนักงานให้มีชีวิตที่ดี เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ทุกคนและเป็นแรงผลักดันให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และก้าวต่อไป" ดร.อธิรัฐ กล่าว
