อุบลราชธานี - พ่อค้าแม่ค้าตลาดน้อย จ.อุบลราชธานี ร้องสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติลดราคาค่าเช่าที่ให้ประกอบอาชีพต่อได้ เผยค้าขายมานานกว่า 60 ปี เผยต้องรอการเจรจาหาข้อยุติระหว่างหน่วยงานรัฐ ด้านเทศบาลนครอุบลฯ บอกหาที่ใหม่ให้ค้าขาย แต่อาจไม่สะดวก
วันนี้ (11 พ.ค.) นายก้องพัฒน์ แสงงาม ประธานกรรมการตลาดเทศบาล 2 หรือตลาดน้อย พร้อมตัวแทนพ่อค้าแม่ค้ากว่า 30 คน เข้ายื่นหนังสือต่อ นางณภัค เทียนชัย ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดอุบลราชธานี ขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหาทางช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าในตลาดประมาณ 170 ราย
ภายหลังจากเทศบาลนครอุบลราชธานีได้ส่งคืนพื้นที่ตั้งของตลาดเนื้อที่กว่า 2 ไร่ ซึ่งใช้เป็นตลาดมาตั้งแต่ปี 2502 ถึงปัจจุบันรวม 63 ปี ให้แก่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รับคืนไปบริหารจัดการเอง ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของในตลาดมาหลายรุ่นเกรงว่าจะไม่มีที่ให้ค้าขายเหมือนที่ผ่านมา
นายก้องพัฒน์ แสงงาม ประธานกรรมการตลาดเทศบาล 2 กล่าวถึงปัญหาที่เทศบาลส่งพื้นที่คืน เพราะเทศบาลนครอุบลราชธานีแจ้งว่าไม่สามารถแบกรับภาระที่ค้างจ่ายค่าเช่าที่ตั้งของตลาดมานานกว่า 2 ปี เป็นเงินเกือบ 27,000,000 บาท เพราะมีการปรับขึ้นค่าเช่าในอัตราใหม่ที่แพงกว่าเดิมอีกเกือบเท่าตัว จึงจำเป็นต้องส่งคืนพื้นที่ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาตินำกลับไปบริหารจัดการเอง
พร้อมยอมรับว่าที่ผ่านมาพ่อค้าแม่ค้าบางรายก็ไม่ได้จ่ายค่าเช่าให้แก่เทศบาลนครอุบลราชธานี เนื่องจากมีปัญหาด้านเศรษฐกิจและต้องเจอกับโรคระบาด จึงมายื่นหนังสือขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติลดราคาค่าเช่าที่ให้ถูกลง เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถรวบรวมเงินมาจ่าย จะได้ขายของได้ตามเดิม
สำหรับค่าเช่าแผงขายสินค้าในตลาดแห่งนี้ มีราคาเดือนละ 500-1,000 บาท ตามขนาดแต่ละแผง ซึ่งมีอยู่ราว 150 แผง ส่วนที่เป็นห้อง มีจำนวน 23 ห้อง ค่าเช่าเดือนละ 2,500 บาท
ด้านนางณภัค เทียนชัย ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า หลังรับทราบปัญหาจากผู้ค้าขาย สำนักงานฯ จะต้องพูดคุยกับเทศบาลนครอุบลราชธานี จะดำเนินการต่อไปอย่างไร แล้วแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหาวิธีดำเนินการต่อไป ขณะนี้ยังให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถขายของไปได้ตามปกติ จนกว่าจะได้ข้อยุติและดำเนินการตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติสั่งการ
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ มูลสาร รองนายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี กล่าวว่าเทศบาลฯ ไม่ได้ทอดทิ้งพ่อค้าแม่ค้าแต่อย่างใด หลังทำเรื่องส่งคืนพื้นที่ให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ก็ได้ปรับปรุงตลาดเทศบาล 6 ซึ่งเป็นตลาดเก่ามีพื้นที่ค้าขายใกล้เคียงกับตลาดน้อย และอยู่ห่างจากตลาดเดิมประมาณ 1 กิโลเมตร เตรียมให้พ่อค้าแม่ค้านำสิ่งของเข้าไปขายได้
แต่ติดขัดที่พ่อค้าแม่ค้าได้ขายของอยู่ในตลาดมานานหลายรุ่น ไม่ต้องการย้ายมาขายในที่แห่งใหม่เพราะพื้นที่อาจไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองเหมือนในอดีต ส่วนพื้นที่ตลาดเดิมก็ยังต้องเป็นตลาด แต่ให้มีการบริหารจัดการกันอย่างไร ต้องให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเจ้าของพื้นที่เป็นผู้ตัดสินใจ