xs
xsm
sm
md
lg

ตร.แจ้งข้อหาลูกสายเปย์! ขโมย ATM แม่ถอนเงิน 3 แสนโปรยกลางตลาด-ซื้อของแจก อ้างทำบุญให้พ่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บุรีรัมย์ - ตำรวจ สภ.สตึกแจ้งข้อหาลูกสายเปย์ ขโมยบัตร ATM แม่วัย 70 ปีไปถอนเงินเกือบ 3 แสนโปรยกลางตลาดและซื้อของแจกชาวบ้าน อ้างทำบุญให้พ่อไม่คิดว่ามีความผิด แม่เผยเสียใจลูกขโมยเงินแต่ไม่อยากเอาผิดเพราะสงสารลูก ตร.ตรวจสอบวงจรปิดรู้ตัวคนเก็บเอาเงินไปหมดแล้ว เตือนนำมาคืนเข้าข่ายความผิดฐานรับของโจร

จากกรณีที่ นางสมหวัง สมบัติ อายุ 70 ปี หญิงสูงอายุชาว อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.นิธิวัฒน์ คำนนท์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.สตึก ว่า นายวุฒิศักดิ์ หรือปุ่ง อายุ 39 ปี ลูกชายของตัวเอง ได้ขโมยบัตรถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) 2 ธนาคาร คือ ธนาคารกรุงไทย และ ธ.ก.ส. ไปแอบกดถอนเงินทั้ง 2 ธนาคาร รวมเกือบ 3 แสนบาท แล้วเอาเงินดังกล่าวไปโปรยแจกในตลาดสดเทศบาลตำบลสตึก และซื้อของแจกชาวบ้าน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 02.59 น. วันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งอยากให้ตำรวจช่วยติดตามเงินที่ลูกชายเอาไปโปรยแจกมาคืนด้วย


ล่าสุดวันนี้ (10 พ.ค.) พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา นายวุฒิศักดิ์ ลูกชายสายเปย์แล้วฐาน “ลักทรัพย์เอาบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (บัตรเบิกถอนเงินอัตโนมัติหรือ เอทีเอ็ม) ของผู้เสียหายไปใช้เบิกถอนเงินสดจากบัญชี” พร้อมทั้งสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อประกอบสำนวนคดีโดยนายวุฒิศักดิ์ยอมรับสารภาพว่าได้ขโมยบัตร ATM ของแม่ไปถอนเงินจริง โดยถอนครั้งละประมาณ 10,000-20,000 บาท รวมหลายครั้ง เป็นเงินทั้งหมดเกือบ 300,000 บาท แล้วนำไปโปรยแจกที่ตลาด และซื้อของแจกชาวบ้านด้วย

โดยอ้างว่าเพราะอยากทำบุญให้กับพ่อที่เสียชีวิต ทั้งอ้างว่ามีบางส่วนที่ถอนมาใช้จ่ายทั้งตนเองด้วย แต่ไม่คิดว่าการทำแบบนี้จะมีความผิด ซึ่งหลังแจ้งข้อกล่าวหาพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวชั่วคราวเนื่องจากไม่มีพฤติการณ์หลบหนี

นายวุฒิศักดิ์ หรือปุ่ง ลูกชายสายเปย์
ด้าน นางสมหวัง ผู้เป็นแม่ ยอมรับว่าที่ผ่านมาลูกชายเคยแอบขโมยเงินของตนเองหลายครั้ง ครั้งละประมาณ 1,000-2,000 บาท ซึ่งตนเห็นว่าไม่ได้มากจึงไม่ได้คิดอะไรแค่ตักเตือนว่าอย่าทำแบบนี้ แต่ล่าสุดถึงขั้นขโมยบัตร ATM ไปแอบกดถอนเงินมากถึงเกือบ 3 แสนแล้วนำไปโปรยแจกและซื้อของแจกคนอื่น จึงตัดสินใจแจ้งตำรวจเพราะอยากให้ช่วยติดตามเงินที่ลูกนำไปแจกกลับคืน แต่ไม่อยากให้ดำเนินคดีต่อลูกเพราะถึงแม้จะไม่ใช่ลูกในไส้แต่ก็รับมาเลี้ยงตั้งแต่อายุเพียง 1 เดือนก็รักเหมือนลูกแท้ๆ เพราะตนกับสามีไม่มีลูก และหลังสามีเสียชีวิตก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแค่ 2 คน หากลูกจะถูกดำเนินคดีก็เป็นห่วงและสงสาร แต่ไม่อยากให้ลูกทำแบบนี้อีก ส่วนเงินที่มีคนเก็บเอาไปตอนนี้ได้นำมาส่งคืนให้แล้ว 2,900 บาท ส่วนที่เหลือไม่รู้ว่าจะได้คืนหรือไม่

นางสมหวัง สมบัติ อายุ 70 ปี ผู้เป็นแม่
ด้านป้าแมว แม่ค้าในตลาดสด บอกว่า วันที่มีคนนำเงินมาโปรยในตลาด ตนยังไม่ได้ออกมาขายของที่ตลาด เพราะวันนี้ออกมาประมาณตี 4 แต่เท่าที่แม่ค้าเล่าให้ฟังบอกว่าเขามาโปรยแจกตอนประมาณตี 3 ก็มีทั้งธนบัตรฉบับละ 100, 500 และ 1,000 บาท ซึ่งคนที่เก็บเอาไปก็คิดว่าเขาเอามาโปรยแจกก็เก็บ แต่ไม่ได้คิดว่าเงินที่เอามาโปรยแจกนั้นได้มาจากไหน กระทั่งมาทราบภายหลังตอนที่เจ้าหน้าที่มาบอกว่าเป็นเงินที่ลูกขโมยของแม่มาแจก หากใครเก็บได้ให้นำไปคืน ซึ่งส่วนตัวหากเป็นคนเก็บไปแล้วรู้ความจริงจะเอามาคืน เพราะสงสารคนเป็นแม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละคนว่าจะนำมาคืนหรือไม่

ขณะที่ พ.ต.อ.วชิรวิทย์ วรรณธานี ผู้กำกับการ สภ.สตึก ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อดูว่าใครที่เป็นคนเก็บเงินไปบ้าง พร้อมทั้งขอประชาสัมพันธ์ให้คนที่รู้ตัวว่าเก็บเงินไปให้นำมาส่งคืนไว้ที่ สภ.สตึก เพื่อมอบคืนแก่ผู้เสียหาย แต่หากใครไม่นำมาคืนแล้วมีภาพหลักฐานปรากฏจะเข้าข่ายความผิดฐานรับของโจร










กำลังโหลดความคิดเห็น