กาญจนบุรี - เหลือเดือนเศษ ลุ้นศาลฎีกาพิพากษาคดีดังหวย 30 ล้านอลเวง ทนายความส่วนตัวครูปรีชา เผยยังเชื่อมั่น “ความจริงก็คือความจริง”
จากกรณีสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 หมายเลข 533726 ซึ่งทาง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เป็นผู้นำสลาก จำนวน 1 ชุด 5 ใบเป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท ไปขึ้นเงินรางวัลที่กองสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยนำเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาจังหวัดกาญจนบุรี แต่เมื่อหักภาษีแล้วเหลือเงินเข้าบัญชี จำนวน 29,850,000 ล้านบาท
แต่สุดท้ายหมวดจรูญ มาถูก นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งการต่อสูในชั้นศาลใช้เวลานานหลายปี และในที่สุดเมื่อวันที่ 20 ต.ค.63 ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัดคู่กรณีมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 โดยศาลอุธรณ์ภาค 7 ได้มีคำพิพากษายกฟ้อง หมวดจรูญ ในคดีอาญา โดยพิพากษาว่า “ไม่ใช่ทรัพย์สินของโจทก์ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย พิพากษายกฟ้อง
แต่อย่างไรก็ตาม วันที่ 25 ก.พ.64 ครูปรีชา พร้อมด้วย นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัวได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อยื่นฎีกาต่อสู้ในคดีหลัก ที่ครูปรีชา ฟ้องหมวดจรูญ ในข้อหาความผิดยักยอกทรัพย์สินหายหรือรับของโจร โดยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 รับรองฎีกาและอนุญาตให้โจทก์ฎีกาได้ และศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาส่งให้ศาลฎีกาเพื่อพิจารณาพิพากษาตามรูปคดี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (2 พ.ค.) นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัวของครูปรีชา กล่าวว่า “คดีอาญาหลักที่ครูปรีชาฟ้องข้อหาความผิดยักยอกทรัพย์สินหายหรือรับของโจร ท่านผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 รับรองฎีกาและอนุญาตให้โจทก์ฎีกาได้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฎีกาส่งให้ศาลฎีกาเพื่อพิจารณาพิพากษาตามรูปคดี
เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้ส่งหมายนัดให้ ครูปรีชา ใคร่ครวญ (โจทก์) และหมวดจรูญ วิมูล (จำเลย) เดินทางไปฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่ อ 1863/2561 และคดีหมายเลขแดง ที่ อ 1416/2562 ในวันที่ 7 มิ.ย.2565 เวลา 09.00 น.ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี
ขณะวันที่อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกานั้น ตนติดภารกิจว่าความที่ศาลอาญา จึงไม่สามารถเดินทางไปศาลกับคุณครูปรีชาได้ แต่จะมีทนายความท่านอื่นที่รับผิดชอบเดินทางไปที่ศาลด้วย ในฐานะคุณครูเป็นโจทก์ คดีนี้หากแพ้คดีต้องพิจารณาคำพิพากษาของศาลฎีกาก่อนว่า ศาลท่านรับฟังข้อเท็จจริงและพิจารณาข้อกฎหมายอย่างไรบ้าง แล้วค่อยยื่นคำร้องขอยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ในคดีแพ่งต่อไป แต่ยังคงมีความเชื่อมั่นว่า “ความจริงก็คือความจริง” นายวราวุธ เผย