ศรีสะเกษ - สองผู้ว่าฯ ไทย-กัมพูชาสวมกอดเปิด “ด่านช่องสะงำ” เป็นวันแรก หลังต้องปิดด่านเพราะโควิดระบาดมากว่า 2 ปี ขณะผู้ว่าฯ ศรีสะเกษยืนยันสามารถปฏิบัติได้ตามที่รัฐบาลและ ศบค.กำหนดไว้ ยกเว้นกรณีจำเป็นก็จะมีข้อผ่อนผันอะไรต่างๆ ให้ เพื่อให้การดูแลซึ่งกันและกันเป็นไปด้วยความเหมาะสมที่สุด
วันนี้ (9 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายสำรวย เกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษ จ.อ.สมควร สิงห์คำ นายอำเภอภูสิงห์ พ.ต.อ.อาทิพย์ ซึมดอน ผกก.ตม.จ.ศรีสะเกษ ได้นำคณะข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เปิดประตูเหล็กด่านจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ เข้าไปพบกับ นายแปน โกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมด้วย นางมัน เชียวี่ นายซอง วีฮา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย พล.ท.เจีย สุเพียะ รอง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา ที่ได้เปิดประตูเหล็กด้านกัมพูชาเดินตบมือเข้ามาพบกันที่บริเวณกลางจุดผ่านแดน
โดยเมื่อพบกันแล้ว ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ และผู้ว่าฯ อุดรมีชัย ได้จับมือและสวมกอดกันอย่างอบอุ่นยิ้มแย้มแจ่มใส เพื่อเป็นการแสดงถึงมิตรไมตรีที่ดีต่อกันในการเปิดจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา เป็นวันแรกนี้ หลังจากที่ได้มีการปิดด่านช่องสะงำมานานกว่า 2 ปีเนื่องจาก สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า โดยช่วงเช้าก่อนหน้านี้ นายสำรวย เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษ จ.อ.สมควร สิงห์คำ นายอำเภอภูสิงห์ พ.ต.อ.อาทิพย์ ซึมดอน ผกก.ตม.จ.ศรีสะเกษ นายปัญญา นามสง่า ศุลกากรช่องสะงำ ได้มาให้การต้อนรับ นายแปน โกศล ผู้ว่าฯ อุดรมีชัย และคณะ เพื่อเดินทางไปร่วมประชุมกับ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ที่ห้องประชุมสถานีขนส่งเมืองใหม่ช่องสะงำ
โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้ประชุมร่วมกันเกี่ยวกับมาตรการที่จะใช้ร่วมกันในการเปิดด่านช่องสะงำ เพื่อให้การดำเนินการเปิดด่านช่องสะงำเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเมื่อมีการประชุมร่วมกันแล้ว จึงได้มีการเปิดด่านช่องสะงำในวันนี้ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นด้วยมิตรไมตรีที่ดีต่อกันเป็นอย่างยิ่ง
นายแปน โกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา กล่าวว่า ในการเปิดด่านวันนี้เป็นวันที่ดีมาก ตามความเป็นจริงแล้วการเปิดด่านไม่ได้ปิดในเรื่องของเศรษฐกิจการค้า เราเปิดมาตลอด แต่การเปิดในวันนี้เป็นการเปิดในเรื่องของคนที่สามารถเดินทางข้ามแดนไปมาได้ และในวันนี้ฝนฟ้าอากาศก็เป็นใจ ไม่มีฝน ก็เป็นวันที่ดีมีแต่แดด และในเรื่องการเปิดด่านช่องสะงำนี้ ต้องขอบคุณรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศที่ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศเดินทางไปมาหาสู่กันได้โดยสะดวก มีแต่รอยยิ้มเหมือนแต่ก่อนที่ยังไม่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องการเปิดด่านช่องสะงำ สาระสำคัญอยู่ที่การประชาสัมพันธ์และการให้ความรู้ในการปฏิบัติตามขั้นตอนและมาตรการในการเปิดด่านให้ประชาชนชาวกัมพูชาได้ทราบเกี่ยวกับการที่จะเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ก็จะมีการเข้าไปให้ความรู้เพื่อให้ประชาชนได้มีความเข้าใจเพิ่มเติม บางครั้งพี่น้องประชาชนไม่มีความเข้าใจแจ่มแจ้งอย่างเราที่เป็นข้าราชการหรือคนทำงาน ก็จะต้องมีการให้ความรู้แล้วประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมในเรื่องของการปฏิบัติตามขั้นตอนหรือมาตรการในการเดินทางข้ามเข้ามาในเขตประเทศไทย
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า การประชุมระหว่างตนกับผู้ว่าฯ อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชาในวันนี้ ถือว่าประสบผลสำเร็จมากและมีความเข้าใจร่วมกันระหว่างสองฝ่ายตามความมุ่งมั่นของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรัฐบาลไทยและรัฐบาลของราชอาณาจักรกัมพูชา การเดินทางระหว่างประเทศในการที่จะทำให้การเดินทางมีความสะดวกมีความคล่องตัว ทั้งในเรื่องของการเศรษฐกิจ ท่องเที่ยวและทางวัฒนธรรม อย่างไรก็ตาม เรื่องของการป้องกันโรคติดต่อโควิด-19 ก็เป็นประเด็นสำคัญที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ให้ความสำคัญ ช่วงหลังมาก็ได้มีการผ่อนคลายมาตรการได้มีการเปิดโอกาสให้จังหวัดต่างๆ เปิดด่านชายแดนกัน ในวันนี้เป็นเพียงเรามาพูดคุยตกลงเพื่อประชาสัมพันธ์มาตรการระหว่างกัน โดยสรุปคือมีความเข้าใจกันดีและสามารถที่จะปฏิบัติได้ตามที่รัฐบาลและที่ ศบค.กำหนดไว้ ในส่วนของหลักการเบื้องต้น ต้องดำเนินการตามหลักมาตรการของ ศบค. ยกเว้นกรณีจำเป็นเราก็จะมีข้อผ่อนผันอะไรต่างๆ ให้เพื่อให้การดูแลซึ่งกันและกันเป็นไปด้วยความเหมาะสมที่สุด
นายวัฒนากล่าวว่า ในส่วนของเวลาเปิด-ปิดด่าน เราก็ยึดถือตามเอ็มโอยู ที่เคยได้ดำเนินการไว้คือเปิดด่านตั้งแต่เวลา 07.00 น. ถึง 20.00 น. ของทุกวัน ซึ่งเป็นมาตรการที่วางไว้ ทาง ผวจ.อุดรมีชัยก็ยินดีจะปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ เราเองเข้าใจตามมาตรการนี้ ทาง จ.อุดรมีชัยก็ยินดีปฏิบัติและจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนชาวกัมพูชาทุกคนได้รับเช่นกัน จากวันนี้เป็นต้นไปประชาชนชาวไทยหรือนักท่องเที่ยวทั่วไปก็สามารถที่จะข้ามไปยัง จ.อุดรมีชัย โดย 2 ระบบ คือระบบพาสปอร์ต และระบบของบอร์เดอร์พาส หรือบัตรผ่านแดนชั่วคราว ซึ่งในเรื่องนี้ทาง ศบค.มีมาตรการสำคัญที่สุดคือ ในเรื่องของวัคซีนผู้ที่จะผ่านแดนจะต้องมีการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็มขึ้นไปซึ่งรัฐบาลไทยเองได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แล้ว โดยหลักคือท่านที่จะข้ามไปยังเขตประเทศกัมพูชาจะต้องทำพาสปอร์ตวัคซีนไว้เพื่อความสะดวก เพราะว่าทางฝั่งกัมพูชาก็อำนวยความสะดวกให้แก่คนไทยทุกอย่างขอให้มีวัคซีนครบตามที่กำหนด ซึ่งในส่วนที่ทางฝ่ายไทยทำได้คือทำในระดับจังหวัด ก็มีการประสานงานภายในซึ่งเป็นเอ็มโอยูเดิม ซึ่งจะต้องมาแก้ไขปรับเปลี่ยน เราจะต้องเสนอความเห็นที่ได้มีการพูดคุยกันไปทางส่วนกลางเพื่อจะได้ปรับแก้ไขในอนาคตต่อไป
