xs
xsm
sm
md
lg

กร่างเกินพิกัด?! ชายอ้างเป็นนักข่าวช่องดัง โวยใส่ จนท.กลางห้องฉุกเฉิน รพ.ปางศิลาทอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กำแพงเพชร - ทั้งพยาบาล หมอ รปภ.เผยนาทีชายอ้างเป็นนักข่าวช่องดัง เข้ารักษาด้วยอาการวูบ-ใจสั่น แต่กลับบันทึกคลิปภาพในห้องฉุกเฉิน พอถูกห้ามกลับโวยวายเสียงลั่น-ชี้หน้า รปภ.ผู้ช่วย ผญบ. พอตำรวจมากลับเงียบ ก่อนย้อนกลับมายื่นเรื่องร้องเรียนซ้ำ


กรณีที่เฟซบุ๊กกลุ่ม "กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่" ได้โพสต์คลิปชายอ้างเป็นนักข่าวช่องดัง มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลปางศิลาทอง อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร โดยมีข้อความในโพสต์ว่า.."อ้างเป็นนักข่าว...บันทึกภาพในห้องฉุกเฉิน ต่อมามีเจ้าหน้าที่ประจำห้องฉุกเฉิน ได้บอกกล่าวให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว แต่ไม่เป็นผล ซ้ำยังท้าทายเจ้าหน้าที่ให้แจ้งตำรวจโดยใช้เสียงดัง ใช้เสียงดังในสถานพยาบาล

เจ้าหน้าที่เกิดความหวาดกลัวจะเกิดอันตราย จึงแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำโรงพยาบบาลฯ เข้ามาระงับเหตุ แต่เมื่อชายคนดังกล่าวถูกเตือนถึงความไม่เหมาะสม กลับมีพฤติกรรมรุนแรงเพิ่มขึ้น และตะโกนโวยวายทันที ซึ่งเป็นการสร้างความรบกวน เดือดร้อนรำคาญให้แก่เจ้าหน้าที่ และผู้ป่วยท่านอื่นที่กำลังรักษาตัวอยู่

หลังจากคลิปดังกล่าวถูกโพสต์ลงไปก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงพฤติกรรมของชายคนดังกล่าว และโพสต์แสดงความคิดเห็นถึงการฝ่าฝืนกฎกติกา ที่ห้ามถ่ายรูปและคลิปภายในห้องฉุกเฉิน พร้อมให้กำลังใจหมอและพยาบาลที่ทำงาน และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบชายที่แอบอ้างว่าเป็นนักข่าวช่องดัง

วันนี้ (28 เม.ย. 65) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบและสอบถามข้อเท็จจริงที่ "ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลปางศิลาทอง" จ.กำแพงเพชร พบภายในห้องฉุกเฉินมีป้ายห้ามถ่ายรูปและคลิปวิดีโออย่างชัดเจน

เจ้าหน้าที่พยาบาลฯ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 23 เม.ย. 65 เวลา 19.00 น. ผู้ป่วยได้เดินทางมารักษาตัวด้วยอาการน้ำตาลในเลือดสูง โดยแจ้งว่ามีอาการวูบและใจสั่น พยาบาลจึงให้นอนบนเตียงและฉีดยาลดน้ำตาลในเลือดและนอนพักดูอาการ 1 ชั่วโมง พร้อมโทร.รายงานเคสกับหมอเวรว่าคนไข้มีอาการอย่างไร

ระหว่างนั้นคนไข้ก็มีการโวยวายหาว่าพยาบาลใช้คำพูดไม่เหมาะสมกับตน ซึ่งพยาบาลก็ได้โทร.แจ้ง ผอ.อีกครั้ง ทำให้คนไข้ใช้คำพูดรุนแรงมากขึ้น จนได้ให้ จนท.รปภ.เข้ามาระงับเหตุดังกล่าว และชายคนดังกล่าวก็กลับบ้านไป โดย จนท.รปภ.แจ้งเพิ่มว่าชายคนดังกล่าวขับรถกลับมาชี้หน้าด่าตนเองอีกว่าทำเกินกว่าเหตุ

ต่อมาวันที่ 26 เม.ย. 65 ชายคนดังกล่าวอ้างเป็นนักข่าวช่องดังได้กลับมายื่นหนังสือร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้อำนวยการโรงพยาบาล โดยยืนยันจะยื่นหนังสือต่อผู้อำนวยการโรงพยาบาลเท่านั้น ซึ่งจากคลิปวงจรปิดด้านหน้าทางเข้าก็มีการนำเพื่อนนักข่าวห้อยป้ายช่อง PPTV 36 มายืนถ่ายคลิปไลฟ์สดขณะที่กำลังยื่นหนังสือร้องเรียน

ซึ่งทาง ผอ.รพ.ก็พยายามขออย่าบันทึกภาพและไลฟ์สด รวมทั้งให้ลบคลิปภาพ แต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่ยอมลบ โดยอ้างว่าเป็นสิทธิของตน รวมทั้งได้ดึงโทรศัพท์กลับไป มีการพูดจาโต้เถียงกันเล็กน้อย

นายบัวกัน ศรีดาจันทร อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114 ม.4 ต.หินดาด อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ตำรวจอาสาประจำโรงพยาบาลทำหน้าที่ รปภ. เล่าว่า ที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ราชการ เราพยายามที่จะให้เกิดผลกระทบตรฝ่อบุคคลให้น้อยที่สุด และตนต้องใจเย็นให้มากที่สุด ตอนนั้นตนสอบถามนักข่าวคนดังกล่าวทำไมไม่ให้หมอรักษาและถ่ายวิดีโอทำไม

จากนั้นชายคนดังกล่าวได้สอบถามตนว่า..คุณเป็นใคร-มาทำอะไร ตนจึงตอบกลับไปว่าเป็นพนักงาน รปภ.ดูแลรักษาความเรียบร้อยอยู่ภายในโรงพยาบาลแห่งนี้ และทั้งยังเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ด้วย ก่อนเกิดการโต้เถียงกัน ผ่านไปสักครู่ตนจึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาระงับเหตุดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงผู้ก่อเหตุก็ไม่พูดอะไรเลย

หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวสงบลงทางพยาบาลได้จ่ายยาและได้ให้กลับบ้าน จากนั้นไม่นานชายคนดังกล่าวได้ขับรถวนกลับมากับภรรยา และได้ชี้หน้าว่ากล่าวตนว่า..คุณอย่าทำเกินหน้าที่นะครับ..ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจ เพราะเรื่องน่าจะจบไปแล้วชายคนดังกล่าวยังกลับมาหาเรื่องด่าว่าอีก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวก็เป็นไปตามคลิปที่ปรากฏออกไปอย่างที่เห็น

ด้าน นพ.สิทธิ์ ภคไพบูลย์ ผู้อำนวยการ รพ.ปางศิลาทอง กล่าวว่า ผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาด้วยอาการหน้ามืดและวูบ ซึ่งทาง รพ.ได้รักษาตามมาตรฐาน ได้แจ้งให้พยาบาลฉีดยาลดน้ำตาลในเลือดและนอนดูอาการ 1 ชั่วโมง กระทั่งพยาบาลได้โทร.แจ้งว่าคนไข้โวยวาย เมื่อแพทย์เวรเข้าไปดูก็พบว่ามีการไลฟ์สดในห้องฉุกเฉิน และแจ้ง รปภ.ให้มาเตือน แต่คนไข้ไม่ฟังจนมีการโต้เถียงกัน

ทั้งนี้ คนไข้ไม่ได้มีสิทธิการรักษาที่นี่ เพราะเป็นคน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งหลังเกิดเหตุวันนั้นก็กลับมาร้องเรียนการบริการของเจ้าหน้าที่อีก และจะยื่นหนังสือถึงตนเท่านั้น โดยขณะนั้นก็มีเพื่อนนักข่าวมาด้วย ซึ่งตนก็ขอให้ลบภาพแต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอมและดึงมือถือไป

“เหตุการณ์ครั้งนี้ทางคนไข้ก็มีสิทธิร้องเรียน แต่ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน ส่วนจะดำเนินการทางกฎหมายหรือไม่ ขอดูก่อนว่าโรงพยาบาลเกิดความเสียหายอย่างไร แต่เบื้องต้นยังไม่ดำเนินคดี”


กำลังโหลดความคิดเห็น