xs
xsm
sm
md
lg

ชาวสวนทุเรียนสมุทรสงครามโอดอากาศแปรปรวน ทำทุเรียนเสียหายกว่า 30 เปอร์เซ็นต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สมุทรสงคราม - ชาวสวนทุเรียนในจังหวัดสมุทรสงครามเศร้าอากาศแปรปรวน ทั้งหนาว ร้อน พายุฝนในเดือนเดียวกัน ส่งผลทำให้ทุเรียนเสียหายกว่า 30 เปอร์เซ็นต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดสมุทรสงคราม นอกจากจะมีลิ้นจี่พันธุ์ค่อม และส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่ รสชาติดีแล้ว ปัจจุบันยังมีเกษตรกรชาวสวนนำทุเรียนพันธุ์หมอนทอง และพันธุ์ก้านยาว มาปลูกก็เจริญเติบโต และให้ผลผลิตรสชาติดีเป็นที่ถูกใจของผู้ที่ชอบกินทุเรียน ถึงขนาดต้องสั่งจองกันล่วงหน้า เนื่องจากผลผลิตยังมีน้อย ที่สำคัญราคาทุเรียนที่ปลูกในจังหวัดสมุทรสงคราม เขาขายกันเป็นลูก ไม่ได้ขายเป็นกิโลกรัม

นายเอกชัย เทียนชัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ตำบลบ้านปราโมทย์ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เจ้าของสวนทุเรียนกว่า 10 ไร่ ประมาณ 400 ต้น กล่าวว่า จังหวัดสมุทรสงคราม นอกจากจะมีลิ้นจี่พันธุ์ค่อม และส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่ รสชาติดีแล้ว ยังมีทุเรียนพันธุ์หมอนทอง และพันธุ์ก้านยาว รสชาติดีเป็นที่ถูกใจของผู้ที่ชอบกินทุเรียน ถึงขนาดต้องสั่งจองกันล่วงหน้า เนื่องจากผลผลิตยังมีน้อย ที่สำคัญราคาทุเรียนที่ปลูกในจังหวัดสมุทรสงคราม ขายกันเป็นลูก ไม่ได้ขายเป็นกิโลกรัม

สำหรับตนเองนั้นเริ่มปลูกทุเรียนมากว่า 10 ปีแล้ว เนื่องจากลิ้นจี่ให้ผลผลิตไม่ดีเท่าที่ควร จึงนำพันธุ์ทุเรียนหมอนทอง และพันธุ์ก้านยาว มาทดลองปลูกตามร่องสวนเป็นรายแรกของจังหวัดสมุทรสงคราม ผลปรากฏว่าให้ผลผลิตดี ทุเรียนมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุน เนื้อนุ่มละเอียด เมล็ดลีบ เนื้อเยอะ รสชาติหอมหวานมันอร่อย ปัจจุบันมีลูกค้าสั่งจองตั้งแต่ทุเรียนลูกยังเล็กๆ

โดยทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ราคาลูกละ 1,000 บาทขึ้นไป ส่วนพันธุ์ก้านยาว ราคาเริ่มที่ลูกละ 5,000 บาท จนถึง 20,000 บาท ปัจจุบันทุเรียนในจังหวัดสมุทรสงครามยังให้ผลผลิตไม่มาก แต่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคสูง ฤดูกาลนี้สวนของตนมีทุเรียนให้ผลผลิตแค่ 70 ต้น ประมาณ 400 ลูก เป็นพันธุ์หมอนทอง 350 ลูก ที่เหลือเป็นพันธุ์ก้านยาว สาเหตุที่ทุเรียนให้ผลผลิตน้อยเนื่องจากก่อนหน้านี้ช่วงต้นเดือนเมษายน สภาพอากาศแปรปรวนมาก มีทั้งร้อน หนาว และพายุฝนในเดือนเดียวกัน ทำให้ผลทุเรียนที่ยังอ่อนอยู่ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ร่วงหล่น จึงเหลืออยู่แค่ประมาณ 400 ลูกดังกล่าว และขณะนี้มีผู้สั่งจองแล้วประมาณ 50 เปอร์เซนต์

อย่างไรก็ตาม ตนเองได้ตั้งชื่อทุเรียนของตนว่า “ทุเรียน 3 น้ำ” เนื่องจากจังหวัดสมุทรสงคราม อยู่ชายทะเลจึงมีทั้งน้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย ดินจึงมีคุณสมบัติพิเศษที่ไม่เหมือนใคร และทำให้ผลไม้ของจังหวัดสมุทรสงครามไม่ว่าจะเป็นลิ้นจี่ ส้มโอ และทุเรียนรสชาติดีกว่าที่อื่นๆ

นายเอกชัย กล่าวอีกว่า ในอีก 2-3 ปี ข้างหน้านี้ ทุเรียน 3 น้ำน่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้นเนื่องจากได้มีการจัดตั้งกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน 3 น้ำแล้ว ขณะนี้มีพื้นที่ปลูกประมาณ 200 ไร่ ในอำเภออัมพวา และอำเภอบางคนที รวมเกือบ 5,000 ต้น โดยจะมีการร่วมกันพัฒนาปรับปรุงเพื่อลดปัญหาทุเรียนสลัดลูกทิ้งเมื่อเกิดพายุฝนและอากาศแปรปรวน ซึ่งตนหวังว่าทุเรียน 3 น้ำ จะเป็นผลไม้หลักอีกชนิดหนึ่งที่สร้างชื่อเสียง และสร้างรายได้ให้ชาวจังหวัดสมุทรสงคราม เช่นเดียวกับลิ้นจี่ และส้มโอ 








กำลังโหลดความคิดเห็น