บุรีรัมย์ - หนุ่มสุรินทร์ขับกระบะพาครอบครัวกลับทำงานกรุงเทพฯ หลังสงกรานต์ระหว่างทาง อ.นางรอง บุรีรัมย์ เจอ จยย.ยูเทิร์นตัดหน้ากระชั้นชิดเบรกไม่ทันพุ่งชนเต็มแรง จยย.กระเด็นคนขี่เสียชีวิตคาที่ ส่วนกระบะเสียหลักชนเสาไฟพังยับ คนขับ เมียและน้องสาวติดในรถเจ็บ 2 ราย
วันนี้ (16 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. ร.ต.อ.พีรพันธุ์ อัครเดชโชติการ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุรถชนกันบนถนนทางหลวงหมายเลข 24 สายโชคชัย-เดชอุดม เขตรอยต่อนางรอง-เฉลิมพระเกียรติ ฝั่งมุ่งหน้าขาเข้าตัวอำเภอนางรอง ห่างจากจุดยูเทิร์นประมาณ 100 เมตร มีผู้เสียชีวิตคาที่ 1 ราย และบาดเจ็บหลายราย จึงได้ประสานแพทย์เวร รพ.นางรอง และหน่วยกู้ภัยสยามฯ ร่วมตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายประพันธ์ แก้วอำไพ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 13 ต.อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ นอนเสียชีวิตอยู่ข้างถนน สภาพศพมีแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ ห่างจากศพประมาณ 100 เมตร ใกล้กับจุดยูเทิร์นพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ ทะเบียน 1 กธ 4006 บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นของผู้ตายอยู่ในสภาพพังเสียหายล้อหลังบิดเบี้ยว
ทั้งนี้ พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน 1 ฒข 3763 กรุงเทพมหานคร สภาพพังเสียหายตัวรถพลิกตะแคงข้างอยู่บริเวณเกาะกลางถนน โดยมีเสาไฟส่องสว่างหักเสียหาย 1 เสาด้วย คาดว่าน่าจะถูกกระบะชนอย่างแรง ทราบว่ามีผู้โดยสารมาในรถกระบะคันดังกล่าว 3 คน คือ คนขับซึ่งเป็นผู้ชายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ได้รอให้การต่อเจ้าหน้าที่อยู่ที่จุดเกิดเหตุ ส่วนอีก 2 คนเป็นผู้หญิงได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่ง รพ.นางรอง
สอบถาม นายนิยม หารคุโน อายุ 43 ปี คนขับรถกระบะ บอกว่า ตนเป็นชาว จ.สุรินทร์ ได้ขับกระบะมากับภรรยา และน้องสาว เพื่อจะเดินทางกลับไปทำงานที่กรุงเทพมหานครหลังจากกลับมาเยี่ยมบ้านช่วงสงกรานต์ โดยได้เดินทางออกจากอำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ก็ขับมาทางตรงตามปกติ แต่พอมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีรถจักรยานยนต์ยูเทิร์นตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด ทำให้เบรกไม่ทันจึงได้พุ่งชนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเต็มแรง เสียหลักชนเสาไฟส่องสว่างจนรถพลิกคว่ำตกร่องเกาะกลางถนน เป็นเหตุให้คนขี่ จยย.เสียชีวิต ส่วนตน ภรรยา และน้องสาวติดอยู่ในรถ ต้องพากันตะเกียกตะกายปีนออกจากรถ มีคนที่ขับผ่านมาเห็นเข้ามาช่วยและแจ้งกู้ภัยฯ ช่วยพาภรรยา และน้องสาวส่ง รพ. ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าอาการหนักแค่ไหน
ด้าน นางบุบผา เทียนวรรณ อายุ 66 ปี พี่สาวผู้ตาย บอกว่า วันนี้เป็นวันพระตนไปวัดทำบุญที่วัด ทราบข่าวว่าน้องชายถูกรถชนตาย รีบเดินทางมาดูทันที ตนไม่ทราบว่าตอนเช้าน้องชายจะเดินทางไปไหน เพราะตอนเช้าต่างคนต่างออกจากบ้านยังไม่ได้คุยกัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานที่จุดเกิดเหตุ พร้อมสอบปากคำผู้ประสบเหตุเบื้องต้น ซึ่งก็จะได้สอบสวนพยานแวดล้อมเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง