บุรีรัมย์ - สุดสลด ลูกชายวัย 36 ปี ป่วยจิตเวชหลอนใช้ไม้กระหน่ำตีศีรษะพ่อวัย 74 ปีดับคาหน้าบ้าน ก่อนบอกเพื่อนบ้านให้ไปดูศพพ่อแล้วปั่นจักรยานหนี สุดท้ายถูกตำรวจตามรวบได้ทันควัน ขณะชาวบ้านผวาเคยฆ่าพี่ชายมาแล้ว 1 ศพก่อนมาก่อเหตุฆ่าพ่ออีก หวั่นปล่อยออกมาเป็นอันตรายต่อชาวบ้าน
วันนี้ (8 เม.ย.) พ.ต.ท.อดิชาติ มีสา รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.บ้านยาง อ.เมืองบุรีรัมย์ จึงประสานแพทย์เวร รพ.บุรีรัมย์ และหน่วยกู้ชีพร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบศพชายสูงอายุ ทราบชื่อภายหลังคือ นายหมื่น (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 74 ปี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บนพื้นดินหน้าบ้าน ในสภาพใส่เสื้อยืดสีน้ำเงินแขนยาว กางเกงขาสั้นสีดำ ตรวจสอบเบื้องต้นพบบริเวณกกหูข้างซ้ายและขวามีร่องรอยคล้ายถูกของแข็งตี จนมีเลือดไหลออกทางหูและปาก
จากการสอบถามชาวบ้านให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุทำร้ายนายหมื่นไม่ใช่ใครที่ไหน คือ นายศิวนนท์ หรือตาล อายุ 36 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิตเอง ที่มีอาการป่วยทางจิตเวชแต่ไม่ค่อยได้กินยา ซึ่งหลังก่อเหตุยังบอกเพื่อนบ้านให้มาดูศพพ่อตัวเองก่อนจะปั่นจักรยานหนีไป
จากนั้น พ.ต.ท.ภานุวัฒน์ มากมูล รองผู้กำกับการ (สืบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ จึงได้นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ออกติดตามตัวนายตาล ผู้ก่อเหตุ กระทั่งช่วงบ่ายพบนายตาลกำลังปั่นจักรยานอยู่บนถนนในพื้นที่ ต.ชุมเห็ด จึงได้เข้าควบคุมมาสอบสวนที่ สภ.เมือง
จากการสอบสวนนายตาล อ้างว่าสาเหตุที่ฆ่าพ่อเพราะเก็บกดที่พ่อชอบด่าชอบบ่น และล่าสุดได้ไปถามหาเครื่องมือช่างที่ซื้อมาแต่หาไม่เจอ แต่พ่อกลับดุด่าอีก ประกอบกับตนเองได้ยินเสียงดังกุกกักจึงคิดว่าพ่อจะใช้ปืนยิงตัวเอง จึงไปคว้าท่อนไม้มากระหน่ำตีศีรษะพ่อ 3 ครั้ง จนพ่อล้มฟุบกับพื้น จึงเดินไปบอกเพื่อนบ้านให้ไปดูพ่อหน่อย ก่อนจะปั่นจักรยานออกจากบ้านไป แต่อ้างว่าไม่ได้หนีแค่ปั่นไปเรื่อยๆ
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน และตำรวจชุดสืบได้ควบคุมตัวนายตาลไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งขณะทำแผนนายตาลมีสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้สะทกสะท้านอะไร ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะคุมตัวกลับมาที่โรงพัก โดยเบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา “ฆ่าบุพการี” หลังจากสอบปากคำแล้วจะได้ส่งตัวให้แพทย์ตรวจประเมินอาการทางจิตว่าป่วยระดับไหน ขณะก่อเหตุมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนหรือไม่ ก่อนจะส่งฝากขังศาลตามขั้นตอน จากนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
ขณะที่ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อหลายปีก่อนนายตาลเคยก่อเหตุฆ่าพี่ชายแท้ๆ ของตัวเองเสียชีวิตมาแล้ว แต่ไม่กี่ปีก็เห็นออกมาอยู่ที่บ้านแล้วมาก่อเหตุฆ่าพ่อบังเกิดเกล้าของตัวเองอีก จากพฤติการณ์ของนายตาลทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างหวาดกลัว เพราะนายตาลถือเป็นบุคคลอันตราย ไม่รู้ว่าก่อเหตุครั้งนี้จะถูกดำเนินคดีกี่ปี หากถูกปล่อยตัวออกมากลัวว่าจะมาก่อเหตุทำร้ายชาวบ้าน เพราะพ่อแม่และพี่ชายเสียชีวิตไปแล้ว หากออกมาอยู่บ้านไม่มีใครดูแล ไม่รู้จะก่อเหตุอะไรอีก