xs
xsm
sm
md
lg

"บ้านป่าแหว่ง" ยังหรู! ธนารักษ์เชียงใหม่ควงเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพลงพื้นที่สำรวจ เร่งส่งมอบ-ฟื้นฟูป่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ พร้อมธนารักษ์เชียงใหม่ลงพื้นที่สำรวจสภาพล่าสุด “บ้านป่าแหว่ง” เตรียมพร้อมวางแผนปลูกป่าฟื้นฟูธรรมชาติก่อนหน้าฝนระหว่างรอชัดเจนประเด็นการรับมอบครุภัณฑ์กว่า 1,800 รายการและการส่งคืนพื้นที่ พบสภาพยังดีเยี่ยม ขณะที่ผู้รับเหมาก่อสร้างศาลอุทธรณ์ภาค 5 เชียงรายเผยสาเหตุการก่อสร้างล่าช้าเนื่องจากไม่ได้รับเงินค่าจ้าง อ้างเหตุเป็นการรับเหมาช่วง ยืนยันหากได้มีการจ่ายเงินพร้อมสร้างเสร็จภายใน 1 ปี


วันนี้ (4 เม.ย. ) ที่อ่างเก็บน้ำแม่จอก โครงการชลประทานเชียงใหม่ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่โครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่ประกอบด้วยบ้านพัก 45 หลัง และอาคารชุด 9 หลัง บนพื้นที่ราชพัสดุที่อยู่ระหว่างการเตรียมส่งมอบคืนพื้นที่ให้กรมธนารักษ์ และดำเนินการปลูกป่าฟื้นฟูตามข้อตกลงร่วมกับภาคประชาชน นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ และนายกรจักร ชูทิพย์ ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ พร้อมคณะร่วมกันลงพื้นที่เดินสำรวจสภาพพื้นที่ตลอดแนวรั้วโครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5

ทั้งนี้  เพื่อวางแผนเตรียมการให้ประชาชนเข้าพื้นที่ปลูกป่าฟื้นฟูธรรมชาติ เมื่อการส่งมอบคืนพื้นที่ดำเนินการแล้วเสร็จ หลังจากที่ล่าช้ามานานเกือบ 4 ปีแล้ว โดยหากส่งมอบเสร็จแล้วนั้น การเข้าพื้นที่เพื่อฟื้นฟูป่าได้รับอนุญาตจากทางโครงการชลประทานเชียงใหม่ให้ใช้พื้นที่และเส้นทางเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าวที่อยู่ติดกันได้ โดยไม่ต้องผ่านศาลอุทธรณ์ภาค 5


นอกจากนี้ ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพยังได้รับอนุญาตจากทางศาลอุทธรณ์ภาค 5 ให้เข้าสังเกตการณ์ในพื้นที่โครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ในส่วนของบ้านพัก 45 หลังด้วย โดยสำรวจทั้งบริเวณโดยรอบบ้านพักและภายในบ้านพัก 

เบื้องต้นพบว่าบ้านพักยังคงอยู่ในสภาพดีทั้งภายนอกและภายใน ขณะที่เครื่องใช้และเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านพักที่เป็นครุภัณฑ์จำนวนรวมกว่า 1,800 รายการ เช่น โต๊ะ, เตียง, ตู้, ชุดรับแขก, ตู้เย็น, เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น ยังคงอยู่ในสภาพใหม่และพร้อมใช้งาน 

เจ้าหน้าที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ชี้แจงข้อมูลเบื้องต้นว่า ทางศาลได้ทำเรื่องขอส่งคืนพื้นที่และครุภัณฑ์ทั้งหมดให้ทางธนารักษ์แล้ว เหลือเพียงทางธนารักษ์ตอบรับการส่งมอบ


นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า จุดยืนของทางเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ หนักแน่นชัดเจนว่าต้องการให้มีการส่งมอบคืนพื้นที่โครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บริเวณเชิงดอยสุเทพ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อดำเนินการปลูกป่าฟื้นฟูธรรมชาติให้สมบูรณ์ดังเดิมโดยเร็วที่สุด 

ขณะนี้จากการติดตามอย่างต่อเนื่องของเครือข่ายฯ เชื่อมั่นว่ากรมธนารักษ์น่าจะรับมอบคืนพื้นที่ในเร็ววันนี้และก่อนฤดูฝนปีนี้อย่างแน่นอน โดยในวันที่ 15 เม.ย.65 ทางเครือข่ายฯ มีนัดพบพูดคุยหารือกับอธิบดีกรมธนารักษ์ เพื่อขอความชัดเจนในเรื่องนี้ สำหรับการปลูกป่าฟื้นฟูนั้น เบื้องต้นมีการเตรียมการและวางแผนแล้ว ส่วนการจัดกิจกรรมครบรอบ 4 ปี การชุมนุมใหญ่ทวงคืนผืนป่าดอยสุเทพ ในวันที่ 29 เม.ย.65 กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมหารือของเครือข่ายฯ


ด้านนายกรจักร ชูทิพย์ ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ กล่าวว่า การรับมอบคืนพื้นที่โครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่ยังคงเกิดความล่าช้านั้น เนื่องจากตัดขัดในประเด็นของเรื่องการรับคืนครุภัณฑ์กว่า 1,800 ราย ซึ่งทางธนารักษ์ไม่สามารถรับมอบคืนได้ อย่างไรก็ตามได้ทำเรื่องหารือไปยังกรมธนารักษ์แล้วให้เร่งรัดพิจารณารับคืน โดยหากรับคืนแล้วการดำเนินทุกอย่างน่าจะเสร็จสิ้นลงภายในเวลาไม่นานอย่างแน่นอน  ส่วนครุภัณฑ์ดังกล่าวเมื่อรับมาแล้วก็จะเร่งบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป เช่น อาจจะนำไปบริจาคให้หน่วยงานหนึ่งหน่วยงานใดใช้ประโยชน์ เป็นต้น 

ขณะที่พื้นที่ที่ได้รับคืนก็จะได้ดำเนินการปลูกป่าฟื้นฟูธรรมชาติตามเป้าหมาย ซึ่งจากการพูดคุยกับทางเครือข่ายฯ มีความเห็นร่วมกันแล้วว่าจะทำการปลูกป่าโดยที่ไม่ต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง แต่ปล่อยให้เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา พร้อมย้ำว่าธนารักษ์ไม่มีเจตนาทำให้เกิดความล่าช้า แต่เนื่องจากในส่วนของธนารักษ์ไม่มีกฎหมายรองรับการรับคืนสังหาริมทรัพย์ ซึ่งกำลังเร่งหาทางออกและรับมอบคืนโดยเร็วที่สุด


ขณะเดียวกันนายณัฐดนัย ทรนงค์ชัยภักดิ์ หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เชียงใหม่ เค คอนสตรัคชั่น หรือ CMK เปิดเผย CMK เป็นผู้รับเหมาหลักรายเดียวในการก่อสร้างศาลอุทธรณ์ภาค 5 เชียงราย โดยรับเหมาช่วงต่อจากกิจการร่วมค้า เอสที-แมกซ์เอนส์-ไทยพารากอน-ทีดับบิว ซึ่งประกอบด้วย 4 บริษัท ของคนจีนและคนไทย ได้แก่ บริษัทชิโนไฮโดร (ไทยแลนด์) จำกัด ,บริษัทแมกซ์เอนส์ จำกัด, บริษัทไทยพรากอน คอนสตรัคชั่น จำกัด และบริษัททรูเวิร์คบิวเดอร์ จำกัด ที่ชนะการประมูลงานนี้จากสำนักงานศาลยุติธรรมที่ราคา 737 ล้านบาท จากราคากลาง 895 ล้านบาท และจากนั้นยังได้งานก่อสร้างจากสำนักงานศาลยุติธรรมอีกหลายงาน รวมทั้งล่าสุดงานก่อสร้างศาลจังหวัดพะเยา โดย CMK รับเหมาช่วงงานก่อสร้างศาลอุทธรณ์ภาค 5 เชียงราย ในราคา 590 ล้านบาท กำหนดการก่อสร้างต้องแล้วเสร็จในวันที่ 7 ก.ย.65 แต่ปัจจุบันงานก้าวหน้าไปเพียงประมาณ 11% และไม่สามารถต่อไป

ทั้งนี้สาเหตุที่การก่อสร้างล่าช้าเป็นเพราะ CMK ไม่ได้รับเงินค่าจ้างจนทำให้ขาดสภาพคล่อง เนื่องจากนับตั้งแต่ที่เข้าดำเนินงานก่อสร้างโครงการนี้โดยเป็นผู้ลงทุนทั้งค่าวัสดุและค่าแรงทั้งหมด เริ่มงานตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นมา เพิ่งได้รับเงินจริงเพียงประมาณ 2 ล้านบาทเท่านั้น จากที่ลงทุนไปประมาณ 100 ล้านบาท 

ศาลอ้างว่า การก่อสร้างตามโครงการนี้มีการจ้างช่วงและต้องถูกปรับเป็นเงินรวมประมาณ 59 ล้านบาท โดยตลอดช่วงเวลาที่ไม่มีการจ่ายเงินนั้น ทางCMKยังคงลงทุนและทำการก่อสร้างอยู่อย่างต่อเนื่อง กระทั่ง ม.ค.65 งานก่อสร้างมีความก้าวหน้าแล้วประมาณ 11% ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ เนื่องจากประสบภาวะขาดสภาพคล่องรุนแรงจนไม่มีเงินซื้อวัสดุก่อสร้างและจ่ายค่าจ้างแรงงาน

 อย่างไรก็ตามทาง CMK เชื่อมั่นว่าสามารถดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลา 1 ปี เพียงขอความอนุเคราะห์จากศาลให้ชำระเงินส่วนที่สามารถชำระได้ให้แก่ CMK .










กำลังโหลดความคิดเห็น