เชียงใหม่ - เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพเผยเตรียมถกร่วมรองอธิบดีธนารักษ์ที่เชียงใหม่ 4 เม.ย. 65 ขอความชัดเจนกรณีการรับมอบคืนพื้นที่ “บ้านป่าแหว่ง” หลังล่าช้ามานานเกือบ 4 ปี ย้ำจุดยืนต้องการให้ภาคประชาชนและชาวเชียงใหม่เข้าพื้นที่ปลูกฟื้นฟูป่าได้ก่อนฤดูฝนปีนี้ หากไม่ได้เตรียมนัดชุมนุมเคลื่อนไหวแสดงพลังครั้งใหญ่ 29 เม.ย. 65
จากกรณีเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 65 เที่ครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ แถลงข่าวแสดงจุดยืนและทวงถามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาโครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่ประกอบด้วยบ้านพัก 45 หลัง และอาคารชุด 9 หลัง บนพื้นที่ราชพัสดุ 147 ไร่ เชิงดอยสุเทพ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะการส่งมอบคืนพื้นที่ให้แก่กรมธนารักษ์ และการฟื้นฟูสภาพป่า
ทั้งนี้ เนื่องจากผ่านมานานเกือบ 4 ปีแล้วนับตั้งแต่ที่ทางหน่วยงานราชการมีข้อตกลงร่วมกันกับภาคประชาชนว่าจะส่งมอบคืนพื้นที่ให้และทำการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างพร้อมพื้นฟูป่า แต่ถึงปัจจุบันกรมธนารักษ์ยังไม่รับการส่งมอบพื้นที่คืน อ้างไม่มีกฎหมายรับรองที่จะรับมอบครุภัณฑ์ในบ้านพัก เช่น แอร์ ทีวี เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น ทั้งๆ ที่ทางศาลส่งเรื่องให้กรมบัญชีกลางพิจารณา และได้รับแจ้งว่าสามารถมอบอาคารพร้อมครุภัณฑ์ในบ้านพักได้ ทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตว่ามีผู้ที่มีเจตนาจะยื้อเวลาและต้องการเข้าไปใช้พื้นที่ต่อไปหรือไม่
ล่าสุดนายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการประสานจากทางธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่นัดหมายให้เข้าพบกับรองอธิบดีธนารักษ์ที่ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 4 เม.ย. 65 เพื่อพูดคุยหารือร่วมกันเกี่ยวกับประเด็นปัญหาการรับมอบครุภัณฑ์ที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนว่าทางกรมธนารักษ์จะสามารถรับมอบคืนพื้นที่ “บ้านป่าแหว่ง” ได้หรือไม่ อย่างไร
ที่ผ่านมาทางศาลได้มีการส่งเรื่องให้ทางกรมบัญชีกลางพิจารณาและมีความเห็นแล้วว่าสามารถรับมอบได้ โดยอยากทราบว่าจากนี้ทางกรมธนารักษ์จะหาทางออกอย่างไร และจะสามารถดำเนินการได้เร็วเพียงใด ทั้งนี้เห็นว่าที่จริงแล้วประเด็นการรับมอบครุภัณฑ์นั้นไม่ควรเป็นปัญหาแต่อย่างใด สามารถรับมอบกันได้ จากนั้นก็บริหารจัดการตามความเหมาะสมและระเบียบกฎหมาย ซึ่งเชื่อว่าหากมีการใช้สติปัญญาแล้วย่อมสามารถทำได้อย่างแน่นอน
ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพย้ำว่า จุดประสงค์และเป้าหมายหลักของทางเครือข่ายฯ ในเวลานี้คือ ต้องการให้ภาคประชาชนและชาวเชียงใหม่สามารถเข้าไปทำการฟื้นฟูป่าในพื้นที่ให้ได้ก่อนฤดูฝนปีนี้ ซึ่งหากยังไม่มีความชัดเจนและไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้ทันก่อนฤดูฝนปีนี้ ทางเครือข่ายฯ เตรียมที่จะนัดเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่และจัดกิจกรรมในวันที่ 29 เม.ย. 65 ต่อไป
นายธีระศักดิ์บอกอีกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดล้วนมาจากการที่ทางราชการสร้างปัญหาขึ้นมาทั้งสิ้น แต่พอเกิดปัญหาแล้วกลับไม่มีหน่วยงานใดกล้าที่จะรับผิดชอบ โดยตราบใดที่ปัญหานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขให้จบสิ้นไป จะเท่ากับเป็นการประจานให้เห็นถึงความล้มเหลวไร้ประสิทธิภาพของระบบราชการและเป็นบาดแผลของชาวเชียงใหม่ตลอดไป ทั้งนี้ หากสามารถแก้ไขปัญหาและส่งมอบคืนพื้นที่ได้แล้ว ในส่วนการรื้อถอนนั้นเชื่อว่าไม่น่าเป็นปัญหา
