บุรีรัมย์ - นายก อบต.พร้อมเจ้าหน้าที่ รพ.สต. และ อสม.ลงพื้นที่ติดตามอาการสาวท้องป่วยติดเชื้อโควิดขอกลับมารักษาที่บ้าน หลังโพสต์คลิปร้องไห้ระบายถึงความลำบากขณะรักษาที่ รพ.สนามเหมือนอยู่ในนรกจนกลายเป็นดรามา พบกำลังใจดี ไม่มีอาการผิดปกติ ขณะหลายหน่วยงานระดม จนท.ทำความสะอาด รพ.สนาม พร้อมปรับระบบแจกอาหารใหม่ไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำ
ความคืบหน้าจากกรณีที่หญิงท้องรายหนึ่งโพสต์คลิป ในแอปพลิเคชัน Tik Tok ระบายถึงความลำบากในการเข้าไปรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสนามแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ โดยได้ถ่ายคลิปพร้อมบรรยายตั้งแต่ห้องน้ำที่สกปรก อาหารไม่เพียงพอต้องแย่งกัน น้ำดื่มไม่เพียงพอ รวมถึงของฝากที่ญาติฝากมาให้ก็ไม่ได้รับ และการจ่ายยาไม่คำนึงถึงสภาพของผู้ป่วย ทั้งๆ ที่ย้ำกับหมอว่า “ตั้งท้อง” แต่ยังจ่ายยาฟ้าทะลายโจรมาให้รับประทาน จนกลายเป็นกระแสดรามาในสังคมออนไลน์ และขณะนี้เจ้าตัวได้ออกจากโรงพยาบาลสนามกลับไปรักษาตัวอยู่ที่บ้านแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (30 มี.ค.) นางรอง ปูดวงรัมย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพระครู อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อม นายอำนาจ สีทัวนอก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) บ้านแก่นเจริญ, ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองขวางน้อย และ อสม. ได้ลงพื้นที่ไปสอบถามติดตามอาการ น.ส.น้อง (ขอสงวนชื่อสกุล) อายุ 29 ปี หญิงตั้งครรภ์ที่อัดคลิประบายความลำบากใน รพ.สนาม ที่ได้ขอกลับไปรักษาตัวที่บ้านในตำบลพระครู พบว่ามีกำลังใจดีเพราะมีผู้ป่วยซึ่งเป็นญาติกันอีกคน รักษาและกักตัวอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวด้วย สำหรับสภาพร่างกายแข็งแรงดี ไม่มีอาการผิดปกติหรือภาวะแทรกซ้อนอะไร เรื่องอาหาร น้ำดื่ม มีทั้งทาง อบต. และญาติพี่น้องนำมาส่ง ส่วนยาเป็นยาที่หมอสั่งจ่ายให้รับประทานตามอาการ
นายอำนาจ สีทัวนอก ผู้อำนวยการ รพ.สต.บ้านแก่นเจริญ บอกว่า จากการลงพื้นที่ติดตามอาการผู้ป่วยรายนี้พบว่าไม่มีอาการรุนแรง แพทย์จึงไม่ได้ให้ยาฟาวิพิราเวียร์ แต่จะให้ยารักษาตามอาการที่เป็น เช่น ไอ เจ็บคอ น้ำมูลไหล ก็จัดยาตามอาการ ส่วนการวัดไข้จะมีเครื่องให้ผู้ป่วยวัดเอง แล้วถ่ายรูปส่งแจ้งเจ้าหน้าที่ทางไลน์ ทั้งนี้จะมี อสม.ในหมู่บ้านคอยสอบถามติดตามอาการอย่างต่อเนื่องด้วย อย่างไรก็ตาม หากมีอาการผิดปกติอะไรสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา
ทั้งนี้มีรายงานว่า หลังเกิดกระแสดรามา รพ.สนาม ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ได้ร่วมกับหลายหน่วยงานระดมเจ้าหน้าที่เข้าไปทำความสะอาดภายในบริเวณ รพ.สนาม ที่เกิดเหตุ พร้อมปรับรูปแบบการแจกอาหาร น้ำดื่มแก่ผู้ป่วยให้เป็นระบบมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าวขึ้นซ้ำอีก