รอง ผบช.น. แถลงกรณีจับกุมชายขับรถกระบะฝ่าไฟแดง ย่านลุมพินี หวิดเฉี่ยวชนพยาบาลตั้งครรภ์ ขณะกำลังจะข้ามทางม้าลาย ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา ก่อนคุมตัวส่งศาลวันนี้
วันนี้ (30 มี.ค.) ที่ สน.ลุมพินี พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงความคืบหน้ากรณีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก “Ginhom Nakab” โพสต์วิดีโอพร้อมข้อความระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนเช้า บริเวณหน้าโรงพยาบาลย่านสวนลุม เนื่องจากไฟทางข้ามม้าลายเป็นสีแดง แต่รถไม่หยุดให้ และคนที่ข้ามเป็นคุณพยาบาลที่กำลังตั้งครรภ์ อยู่ด้วย คิดดูนะครับ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กับเหตุการณ์แบบนี้อีก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่ สน.ลุมพินี
โดย พล.ต.ต.จิรสันต์ เปิดเผยว่า ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามคลิปวิดีโอ ว่า มีรถยนต์ฝ่าฝืนสัญญาณบริเวณทางม้าลาย โดยไม่หยุดให้หญิงท้องคนดังกล่าวเดินข้ามไปก่อน จนเกือบเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ จนทราบว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 06.45 น. วันที่ 26 มี.ค.ผ่านมา บริเวณทางม้าลาย หน้าประตู 8 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ จึงติดตามรถยนต์คันดังกล่าวจากกล้องวงจรปิดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกอบกับกล้องวงจรปิดของ กทม. และ หน่วยงานเอกชน จนทราบว่า รถยนต์ที่ก่อเหตุดังกล่าว เป็นรถยนต์อีชูซุ ดีแมคซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 1 ฒญ 5772 กรุงเทพมหานคร มี นายวีรยุทธ จำปาราช เป็นผู้ขับขี่ จึงสืบสวนติดตามบุคคลดังกล่าว จนกระทั่ง นายวีรยุทธ ได้เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี เมื่อวานนี้ (29 มี.ค.)
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวอีกว่า นายวีรยุทธ ได้ยอมรับว่า เป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวขณะเกิดเหตุจริง โดยก่อนเกิดเหตุได้ขับขี่รถยนต์มาจาก อ.สามพราน จ.นครปฐม เพื่อนำส่งอาหารสดให้กับโรงเรียนย่านสาทร ถนนศาลาแดง และกำลังมุ่งหน้าไปโรงเรียนบริเวณถนนสามเสนซอย 11 เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ได้ก้มดูเส้นทางตามจีพีเอสจากโทรศัพท์มือถือ โดยไม่สังเกตเห็นว่า บริเวณดังกล่าวเป็นทางม้าลาย และมีสัญญาณไฟจราจรสีแดง จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี จึงตรวจสอบเอกสารของรถยนต์ที่เกิดเหตุ พบว่า มีสถานะปกติ แต่ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ของ นายวีรยุทธ หมดอายุ ตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2559 จึงดำเนินคดีกับนายวีรยุทธ 4 ข้อหา ได้แก่ ไม่หยุดรถให้คนข้ามถนนบริเวณทางข้าม ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติ ตามสัญญาณไฟจราจร ขับรถโดยไมได้รับใบอนุญาต และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น โดย 3 ข้อหาแรก ได้ทำการเปรียบเทียบปรับไปข้อหาละ 1,000 บาท ส่วนข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น จะส่งฟ้องศาลแขวงปทุมวันภายในวันนี้ จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน ให้ปฏิบัติตามเครื่องหมาย และสัญญาณไฟจราจร เพื่อช่วยลดความสูญเสียที่เกิดจากอุบัติเหตุ
