ศูนย์ข่าวขอนแก่น - พาเที่ยว “ภูระงำ” ดินแดนลี้ลับในอดีต ภายในวนอุทยานภูหัน-ภูระงำ อ.ชนบท จ.ขอนแก่น เนื้อที่กว่า 6,240 ไร่ พาชมหินรูปทรงต่างๆ โชว์ความงามประติมากรรมธรรมชาติ พร้อมบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ภูหิน น้ำไม่เคยแห้ง และความงามพันธุ์ไม้ธรรมชาติ
อำเภอชนบท ไม่ได้มีเฉพาะผ้าไหมที่ขึ้นชื่อระดับประเทศเท่านั้น ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง เช่น ศาลาไหมไทย ถนนสายไหม ศาลเจ้าพ่อมเหศักดิ์ วัดป่าโนนพะยอม วัดป่าภูหันบรรพต ชุมชนมัดหมี่บ้านหัวฝาย และวนอุทยานภูหัน-ภูระงำ หากนักท่องเที่ยวสนใจชมธรรมชาติ และบรรยากาศในแบบฉบับนักผจญภัย วนอุทยานภูหัน-ภูระงำ น่าจะเป็นทางเลือกเข้าไปเที่ยวชมได้ทุกวัน
“ป่าภูระงำ” ผืนป่าเพียงแห่งเดียว ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลวังแสง อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของวนอุทยานภูหัน-ภูระงำ เป็นวนอุทยานที่หลายคนอาจไม่ค่อยรู้จักนัก สภาพโดยทั่วไป มีเนื้อที่ 6,240 ไร่ ลักษณะพื้นที่เป็นป่าดิบแล้งเชื่อมป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ โดยมีภูเขาขนาดเล็กมีจุดสูงจากระดับน้ำทะเล 250 เมตร บริเวณโดยรอบมีพรรณไม้ขึ้นหนาแน่นสลับกับลานหินทราย เพิงหิน ถ้ำ
บริเวณรอบๆ เขตวนอุทยานยังรายล้อมไปด้วยก้อนหินรูปร่างลักษณะแตกต่างกระจัดกระจายไปตามพื้นที่ไหล่เขา ซึ่งหินบางก้อนมีความงดงามราวกับเป็นประติมากรรมทางธรรมชาติสร้างสรรค์เอาไว้ เป็นจุดเด่นของแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ โดยรูปทรงต่างๆ ของหินทรายเกิดจากการกัดเซาะโดยกระแสน้ำหรือกระแสลมเป็นเวลานาน ทำให้ตะกอนมีการเรียงตัวเอียงไปตามทิศทางของกระแสน้ำหรือกระแสลม
สถานที่แห่งแรกคือ “บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ภูหัน” เป็นสระน้ำที่มีน้ำตลอดทั้งปีไม่เคยเหือดแห้ง แม้จะเป็นฤดูแล้ง เป็นแหล่งน้ำที่เคยใช้ประกอบพิธีทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ทูลเกล้าฯ ถวาย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ (5 ธันวาคม 2542) และพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ (5 ธันวาคม 2554)
หินรูปทรงต่างๆ ที่เป็นประติมากรรมทางธรรมชาติ จะเรียกว่า เกิ้งจ้อง เกิ้งย่ามา เกิ้งตะขาบ เกิ้งขาม คำว่า “เกิ้ง” สันนิษฐานว่า เป็นคำเรียกเพิงหิน ที่ใช้พักหลบแดด ฝน และอันตราย ซึ่งที่บริเวณเกิ้งขาม นักท่องเที่ยวจะได้ชมภาพเขียนตามผนังหินจำนวนมาก ซึ่งมีภาพเขียนรูปต่างๆ เป็นปริศนาตามความเชื่อของชาวบ้านคิดว่าเป็นลายแทงแหล่งสมบัติ เป็นรูปไม้กางเขน ตะขาบ วัวแดง ฝ่ามือ สัญลักษณ์คล้ายแผนที่ แจกัน รูปผู้ชายยื่นดอกไม้ให้ผู้หญิง จั่วบ้าน เป็นต้น เบื้องต้นนักโบราณคดีชำนาญการ สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น สันนิษฐานว่าภาพดังกล่าวมีอายุเก่าแก่ 2,000-5,000 ปี โดยภาพเขียนเหล่านี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เป็นโบราณสถานสมบัติของชาติ
เมื่อเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ภายในวนอุทยานภูหัน-ภูระงำ จะพบกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติหลากหลายรูปแบบ เช่น การเอาตัวรอดของพรรณไม้ยุคแรกๆ ของโลก จนสามารถดำรงพันธุ์มาถึงปัจจุบัน ตลอดจนกระบวนการทางธรณีวิทยาที่รังสรรค์งานประติมากรรมหินทรายรูปทรงต่างๆ และการพึ่งพาอาศัยกันและกันของธรรมชาติ
ส่วนเส้นทางศึกษาธรรมชาติวนอุทยานภูหัน-ภูระงำ มี 2 ระยะทาง คือ ระยะสั้น ความยาวประมาณ 450 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 30-45 นาที และระยะไกล ความยาวประมาณ 1,420 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที เส้นทางจะมีความลาดชันปานกลาง บางช่วงมีความลาดชันมากและขรุขระ เพื่อความสนุกสนานในการชื่นชมธรรมชาติ ควรเตรียมกล้องถ่ายภาพ กระติกน้ำ และสวมรองเท้าหุ้มส้น ใช้ความระมัดระวังและปฏิบัติตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำอย่างเคร่งครัด
“วนอุทยานภูหัน-ภูระงำ” มีเนื้อที่ในความรับผิดชอบ 6,240 ไร่ แต่มีกำลังเจ้าหน้าที่รับผิดชอบดูแลแค่ 6 คน มีนางสาวพิมพ์กานต์ วงษ์ภูดร เป็นหัวหน้าวนอุทยานภูหัน-ภูระงำ เจ้าหน้าที่รักษาป่าทั้ง 6 คนมีสภาพเป็นลูกจ้างรายเดือน ได้ค่าจ้างเดือนละ 9,000 บาท และสิ้นกันยายน 2565 นี้ เจ้าหน้าที่อีก 2 คนจะหมดสัญญาจ้าง มีหัวหน้าวนอุทยานเพียงคนเดียวที่เป็นข้าราชการ ทุกคนทำงานใจเกินร้อย แม้จะขาดแคลนทั้งเครื่องไม้เครื่องมือ และอุปกรณ์รักษาป่า ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน อาวุธปืน และรถยนต์ตรวจการณ์ ซึ่งมีสภาพไม่สมบูรณ์ แถมเป็นรถนอกอัตราการจัดค่าน้ำมัน ค่าซ่อม ไม่สามารถเบิกจ่ายทางราชการได้ ดังนั้นการออกตรวจแต่ละวัน ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่จะใช้จักรยานยนต์ส่วนตัว ที่สำคัญ ห้องน้ำ ห้องสุขา รองรับนักท่องเที่ยวนั้นมีเพียง 2 ห้องเท่านั้น ส่วนไฟฟ้าได้รับความอนุเคราะห์จากท่านเจ้าอาวาส วัดป่าภูหันบรรพต ให้ต่อพ่วงไฟมาใช้
“ภูระงำ” ปัจจุบันกำลังรอการพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของชาวอำเภอชนบท ภาพอดีต “ป่าภูระงำ” มีความลี้ลับ อัศจรรย์มาก จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเส้นทางจาริกธรรมะของ “หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต” พระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนากรรมฐาน ผู้เป็นบูรพาจารย์สายพระป่า ที่เคยพาคณะศิษย์เดินธุดงค์มาค้างแรม ปรากฏการณ์ของพญางูยักษ์ที่จำศีลภาวนาภายในถ้ำ และจะออกมาเล่นน้ำในคืนเดือนเพ็ญ และเรื่องราวของตะขาบยักษ์ ล้วนเป็นเรื่องราวที่ท้าทาย และรอการสืบค้นจากผู้รู้
สำหรับเส้นทางสะดวกไปเที่ยววนอุทยานภูหัน-ภูระงำ สามารถขับรถเดินทางออกไปจากตัวเมืองอำเภอชนบทประมาณ 17 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที สามารถโทร.สอบถามรายละเอียดได้ที่ 08-4072-3655 “หัวหน้าเดียว” คุณพิมพ์กานต์ วงษ์ภูดร หัวหน้าวนอุทยานภูหัน-ภูระงำ และเจ้าหน้าทุกคน พร้อมอำนวยความสะดวกให้