xs
xsm
sm
md
lg

ตร.นครสวรรค์ยันแจ้งข้อหาทั้งคู่ หลังคลิปจราจรขี่บิ๊กไบค์ชน จยย.หนุ่มอุทัยฯ ปี 64 แพร่สะพัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครสวรรค์ - ตำรวจเมืองปากน้ำโพรีบแจง..หลังคลิปแพร่สะพัด ตร.จราจรขี่บิ๊กไบค์ชนท้าย จยย.หนุ่มอุทัยฯ ปี 64 แต่ผู้เสียหายกลายเป็นผู้ต้องหา-ต้องชดใช้เป็นแสน ก่อนขึ้นโรงพักแจ้งความเอง ผกก.ยันดำเนินคดีทั้งสองฝ่าย


กรณีเพจเฟซบุ๊ก “อย่าหาทำ” ได้เผยแพร่คลิปเกี่ยวกับอุบัติเหตุ ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองนครสวรรค์ กับประชาชน ระบุว่า ตำรวจยศ ด.ต. สังกัดจราจร สภ.เมืองนครสวรรค์ ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์พุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านพังยับ แต่กลับกลายเป็นว่า..ชาวบ้านผู้เสียหายกลับกลายเป็นผู้ต้องหาเสียเอง แทนที่จะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้นั้นที่ต้องเป็นฝ่ายผิด เพราะขับขี่รถประมาท พุ่งชนท้ายรถผู้อื่น

คลิปต้นเรื่อง https://www.facebook.com/donotdostupidshit/videos/659762441971440/?extid=NS-UNK-UNK-UNK-AN_GK0T-GK1C&ref=sharing

จากการตรวจสอบคลิปภาพที่มีการเผยแพร่ดังกล่าว พบว่าคลิปมีการติดโลโก้ “นักรบด่านเถื่อน” และมี “นายเกรียงไกร ไทยอ่อน” ปรากฏอยู่ในคลิป เพื่อเล่าเหตุการณ์เรื่องราวทั้งหมด ซึ่งมีการนำเอาภาพกล้องวงจรปิด นาทีที่ตำรวจจราจรขับขี่รถบิ๊กไบค์พุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายจนล้มคว่ำลงไปทั้งคู่

และต่อด้วยภาพที่บันทึกได้จากกล้องมือถือ เป็นการโต้เถียงกันระหว่างผู้เสียหายและตำรวจจราจร โดยฝ่ายหนึ่งชี้ให้ดูถึงสภาพความเสียหายของรถ และต่อว่าตำรวจจราจรที่ขี่รถมาพุ่งชน ส่วนตำรวจจราจรรายดังกล่าว ก็ตอบกลับไปในทำนองว่าเป็นเพราะฝ่ายผู้เสียหายพยายามจะขับรถหลบหนี จึงทำให้ต้องขับรถไล่ตาม แล้วเป็นฝ่ายผู้เสียหายมีการเบรกรถเพื่อเลี้ยวกะทันหัน จนทำให้เบรกไม่ทันเลยพุ่งชนดังกล่าว ซึ่งฝ่ายผู้เสียหายก็พูดสวนกลับไปว่า ไม่ได้หนี ก็กำลังจะขับรถไปที่โรงพักเพื่อไปจ่ายค่าปรับ

ทั้งนี้ ในส่วนของผู้เสียหายได้มีการส่งคลิปภาพและโทรศัพท์โฟนอินไปร้องทุกข์ต่อนายเกรียงไกร ไทยอ่อน ว่า ตนชื่อนายมารุต ปัญญาพรศิริ เป็นชาว จ.อุทัยธานี แล้วระบุต่อว่า เหตุการณ์อุบัติเหตุตามคลิป เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 11.30 น. ของวันที่ 17 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งได้ขับขี่รถจักรยานยนต์จาก จ.อุทัยธานี ไปทำธุระซื้อของที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์

แต่เนื่องจากรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่มามีการตกแต่ง และเปลี่ยนท่อไอเสียมา ประกอบกับในระหว่างที่ขับขี่ ก็มีตำรวจจราจรคู่กรณีขี่รถบิ๊คไบค์ตามหลังมาด้วยความเร็วก่อนจะดักหน้ารถของตน พร้อมกับเรียกให้ตนจอดรถ และเมื่อตนจอดรถปุ๊บ ก็โดนกล่าวหาปั๊บ ว่ารถเป็นท่อรถแต่ง ให้ขับรถวนไปที่โรงพักเสนพื่อไปเสียค่าปรับ แต่ก่อนไปตนก็ได้บอกกับจราจรรายนั้นให้ขี่รถนำรถตนไป เพราะไม่ชินเส้นทาง แต่จราจรคู่กรณีกลับไม่ยอม และบอกว่า “กลัวมึงหนี”

“จุดที่ถูกเรียกจับนั้น เป็นถนนเจ้าสี่พระยา บริเวณสามแยกสะพานดำ ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ ซึ่งหลังจากที่ถูกเรียกจับก็ได้ขี่รถนำรถตำรวจจราจรรายนั้นมา แต่เนื่องจากไม่ค่อยคุ้นชินเส้นทาง จึงทำให้ขี่รถเลยซอยที่จะเลี้ยวไปทางโรงพัก จนทำให้ตำรวจจราจรคิดว่าตนขี่รถหนี ซึ่งความจริงแล้วตนไม่ได้หลบหนี ถึงแม้มันเลยซอยที่เลี้ยวเข้าโรงพัก ก็ยังสามารถไปเลี้ยวซอยถัดไปได้ ซึ่งเมื่อตนชะลอเพื่อจะเลี้ยวเข้าซอยสวรรค์วิถี 65 ตำรวจจราจรคนเดิมก็ขับขี่ไล่ตามมาด้วยความเร็ว จนสุดท้ายก็เบรกไม่อยู่ พุ่งมาเสยท้ายรถตนอย่างแรง จนหมวกกันน็อกที่ตนใส่กระเด็นหลุดออกจากหัวตามแรงกระแทก”

นายมารุตระบุต่อถึงหลังจากเกิดเหตุการณ์ว่า ขอยืนยันว่าตนไม่คิดจะหลบหนี และตั้งใจจะขับขี่รถไปเสียค่าปรับที่โรงพักจริง ซึ่งหลังจากที่ถูกชนคว่ำ ตำรวจร้อยเวรก็ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมกับยกรถตนขึ้นท้ายรถกระบะไปโรงพัก ซึ่งขณะนั้นตนคิดแจ้งความจะเอาเรื่อง เพราะถูกทำเกินกว่าเหตุ จึงได้ขึ้นไปแจ้งความเอาผิดกับร้อยเวรเจ้าของคดี ส่วนความผิดเรื่องรถจักรยายนต์ที่ตนขี่มา ก็ให้ตำรวจดำเนินการสั่งปรับไป

แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นว่า ทางร้อยเวรให้ตนลงบันทึกประจำวัน แล้วให้เดินทางกลับไปบ้านก่อนค่อยมาติดต่อใหม่ กระทั่งหนึ่งอาทิตย์ผ่านไป กลายเป็นว่าตนถูกแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท และต้องไปชดใช้ค่าเสียหายให้กับรถของตำรวจจราจรคู่กรณี และค่ารักษาอาการบาดเจ็บ เป็นเงินมากกว่า 1 แสนบาทด้วย

“Oh!, my god! ผมโดนชนจนรถผมพังยับกลายเป็นโกโก้ครันช์ แล้วไยจึงต้องตกเป็นผู้ต้องหา ไปชดใช้ค่าเสียหายให้เขาด้วย จึงได้มาร้องเรียนต่อนายเกรียงไกร เพื่อให้ช่วยตีแผ่ความจริง และเรียกร้องความเป็นธรรมให้ด้วย”

วันนี้ (21 มี.ค. 65) พ.ต.อ.เสฎฐวุฒิ รอดจันทร์ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า เรื่องคลิปที่เผยแพร่ผ่านเฟซฯ “นักรบด่านเถื่อน” ได้รับการยืนยันว่าตำรวจจราจรที่ปฏิบัติงานในวันนั้น คือ ด.ต.บุญชวน พึ่งเพียร เห็นนายมารุต ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ สีส้มดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และดัดแปลงสภาพรถ ติดท่อเสียงดัง แล้วขับขี่หวาดเสียว เข้ามาในเขตพื้นที่เมืองนครสวรรค์ จึงได้เรียกจอดขอตรวจสอบหลักฐานเกี่ยวกับรถก่อนจะออกคำสั่งให้นายมารุตไปที่ สภ.เมืองนครสวรรค์

แต่ปรากฏว่า ในระหว่างทางเจ้าตัวได้ขับขี่หลบหนีมาด้วยความเร็ว จนทำให้ ด.ต.บุญชวน ต้องขับขี่รถไล่ตามอย่างกระชั้นชิด กระทั่งมาถึงทางแยกปากซอยสวรรค์วิถี 65 นายมารุตได้เบรกรถกะทันหันเพื่อจะเลี้ยว จึงเป็นเหตุทำให้ ด.ต.บุญชวนเบรกรถไม่ทัน จนเกิดการชนท้ายดังกล่าว

เรื่องนี้ได้มีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และฟ้องนายมารุตในข้อหาขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และทรัพย์สินเสียหาย โดยคดีกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลแขวงนครสวรรค์

แต่ต่อมา นายมารุต ที่อ้างว่า ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ไม่รับแจ้งความ จนต้องไปแจ้งกับตำรวจ สภ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี แทนเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2564 เพื่อเอาผิดกับ ด.ต.บุญชวน ในข้อหาขับขี่รถจักรยานยนต์ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหาย รวมถึงปลอมและใช้เอกสารทะเบียนปลอม ใช้รถดัดแปลงสภาพรถ รวมถึงมีเครื่องวิทยุโทรคมนาคมไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทางตำรวจ สภ.หนองฉาง ก็ได้มีการรวบรวมเอกสารส่งให้ ร.ต.อ.รัฐพลขวัญเซ่ง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครสวรรค์ แล้ว ซึ่งก็มีความเห็นร่วมกับอัยการจังหวัด ควรสั่งไม่ฟ้อง แต่อัยการภาคฯ เห็นแย้ง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ด.ต.บุญชวนไปด้วย เป็นการประมาทร่วมกัน ตามคดีอาญา 965/2565 ลงวันที่ 14 มีนาคม 2565 โดยศาลแขวงนครสวรรค์ จะมีการพิจารณาคดีนี้ในวันที่ 11 กรกฎาคมที่จะถึงนี้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดเรื่องนานแล้ว ถึงมาเกิดคลิปปรากฏ พ.ต.อ.เสฎฐวุฒิระบุว่า ช่วงนี้กระแสโซเชียลฯแรง และน่าจะเกิดผลดีเกี่ยวกับความนิยม จึงทำให้มีการนำมาเผยแพร่ จนกลายเป็นเรื่องดังกล่าว ซึ่งยืนยันว่านายมารุตได้ขับขี่รถหลบหนีจริง และ ด.ต.บุญชวน ก็ปฏิบัติตามหน้าที่ ถ้านายมารุตขับขี่รถถูกต้องตามกฎหมายก็คงไม่ถูกจับ และไม่เกิดเรื่องดังกล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น