คนขับรถบรรทุกพ่วงซิ่งแหกด่าน โผล่พบ ตร.อ้างตกใจ จนท.ทางหลวงชนบทแจ้งความเอาผิดอาญา

คนขับรถพ่วงบรรทุกดิน แหกด่านตรวจน้ำหนักทางหลวงคลิปดัง เข้ามอบตัวตำรวจ ผกก.สภ.บางกรวย รับทราบข้อหา เจ้าตัวอ้างตกใจเจ้าหน้าที่กระโดดเกาะรถเคาะกระจก ด้านกรมทางหลวงชนบทเข้าแจ้งความเอาผิดอาญา เจ้าของรถ

จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ยังไงก็ได้ แล้วแต่ ได้หมด” โพสต์คลิประบุข้อความว่า#นี่แหละรถดินที่ว่าทำงานสุจริต แต่ผิดกฎหมายทำไมผมถึงจอดเป็นปีแล้วล่ะ ทำไมผมถึงเบื่อรถดิน ก็เพราะแบบนี้แหละ#เอาใจช่วยทั้งเถ้าแก่และคนขับครับ

วันนี้ (17 มี.ค.) ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ สภ.บางกรวย พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สภ.บางกรวย เชิญตัว นายสุวัฒน์ ขุนสวัส คนขับรถบรรทุก 22 ล้อ เข้าสอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากวันที่ 16 มี.ค. 65 เกิดเหตุรถพ่วงบรรทุก 22 ล้อ หมายเลขทะเบียน 53-5094 ขับฝ่าฝืนด่านตรวจน้ำหนักราชพฤกษ์ ของสำนักบำรุงกรมทางหลวงชนบท โดยขับหนีไม่จอดทำให้ชนท้ายรถกระบะอีซูซุ สีเหลือง ของกรมทางหลวงชนบท หมายเลขทะเบียน 5 กส 2393 กทม. และขับลากไปไกลหลายกิโลเมตร ทำให้ได้รับความเสียหาย โดยมี นายสิทธา กลิ่งสนอง อายุ 37 ปี นายช่างโยธา เป็นผู้ขับขี่

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวผู้ประกอบการและรถบรรทุกคันดังกล่าว พร้อมกับผู้ขับขี่มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกรวย และตั้งข้อหากับผู้ขับขี่รถบรรทุก 3 ข้อหา คือ 1. ฝ่าฝืน คำสั่งและปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ 2. ทำให้เสียทรัพย์ 3. ขับรถหวาดเสียวไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และจะนำตัวผู้ขับขี่รถพ่วงไปตรวจสารเสพติดเพิ่มเติม

จากการสอบถาม นายสุวัฒน์ คนขับรถบรรทุก หลังจากสอบปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อย ทราบว่า ตอนที่เกิดเหตุตนแบกดินมาจากอยุธยา ตอนเกิดเหตุคิดอะไรไม่ออกเพราะไม่มีสัญญาณไฟ ตอนขับรถมาก็ติดสายโทรศัพท์อยู่ ซึ่งตอนเกิดเหตุมีคนมาเคาะรถ และเอากระบอกไฟมาทุบรถ ตนก็ตกใจเพราะไม่เคยโดนเรียกมาก่อน ถ้าลงไปก็คงไม่ปลอดภัย

หลังจากเกิดเหตุได้กลับไปตั้งหลักที่อู่ เพราะตนเช่ารถมา และทางเจ้าของรถให้ตนเข้ามาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจวันนี้ และเข้ามาคุยกับทางคู่กรณี ปกติส่วนตัวไม่มีเสพยาและไม่ได้ติดยา และไม่เคยมีปัญหากับกรมทางหลวงมาก่อนและในรถไม่มีสิ่งของผิดกฎหมาย วันนี้ก็ให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างเต็มที่ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ส่วนเรื่องความเสียหายก็ต้องอยู่ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตนก็รับผิดชอบและไม่ได้หลบหนี ปกติแล้วด่านชั่งน้ำหนักถ้ามีตนก็จะเข้าชั่งก่อน และตนก็ชั่งน้ำหนักก่อนที่จะบรรทุกของออกมา

ส่วนตัวแล้วถ้ามีเจ้าหน้าที่เรียกแบบปกติก็จะลงมา แต่กรณีนี้เขาปีนขึ้นมากระโดดขึ้นมาบนรถจึงตกใจ ถ้าตนเบรกไม่ทันชนไปตนก็ต้องรับผิดชอบ ส่วนเรื่องชนท้ายตนพยายามหลบแล้วเขาก็ข้ามมาตัดหน้าแล้วก็ชะลอรถทำให้ตนชนเข้าไปที่ท้ายรถกระบะ ประมาณ 3-4 ครั้ง

จากการสอบถาม นายสรศักดิ์ สันธนะดิลก หัวหน้าสำนักสถานีตรวจสอบน้ำหนัก กรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า เมื่อวานตนได้เข้ามาลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว วันนี้ได้เข้ามาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตอนเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ประมาณ 10 กว่าคน รวมถึงตนด้วย ส่วนด่านที่ตรวจเป็นการตรวจน้ำหนักของรถบรรทุก ตาม พ.ร.บ.ทางหลวงมาตรา 23 ดูรถที่ต้องสงสัยและคาดว่ากระทำความผิดจะเรียกตรวจได้ทันที แต่ก็ไม่ได้เป็นการตั้งด่านแบบให้จอด เพราะมีรถเยอะ จะเรียกตรวจเฉพาะรถต้องสงสัย ซึ่งเราก็มีสัญญาญไฟจากรถกระบะและมีสัญลักษณ์ชัดเจนอยู่แล้ว

ตั้งแต่ปฏิบัติหน้าที่มาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เพราะเหตุการณ์นี้ค่อนข้างรุนแรง แต่ก็ยังดีที่ไม่มีใครได้รับความบาดเจ็บ แต่มีเพียงรถที่เสียหาย ตรงด้านหลังเพราะโดนรถบรรทุกดัน ตอนเกิดเหตุก็ต้องปล่อยให้รถไหลไปตามที่เขาดันไม่งั่นอาจจะเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ได้

วันนี้จะเข้ามาแจ้งข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานทางหลวง ฝ่าฝืน หรือต่อต้านการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งพนักงานทุกคนเป็นของกรมทางหลวงก็จะมีกฎหมายเกี่ยวกับอาญาเข้ามาร่วมด้วย ตั้งแต่เกิดเหตุทางเจ้าของรถบรรทุกยังไม่เคยติดต่อเข้ามาหาตน ตนก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย