สระแก้ว - ติดคุกยาว! สาวแสบกุเรื่องถูกหลอกทำงานในกัมพูชาจนถูกวางยาสลบดูดเลือดขาย สุดท้ายตำรวจจับโป๊ะได้พบสมัครใจทำงานในเมืองปอยเปตหลอกคนไทยลงทุน สุดท้ายอยากกลับบ้านหาแฟนจนต้องสร้างเรื่องสุดโหด ล่าสุดศาลสระแก้วสั่งจำคุก 6เดือนไม่รอลงอาญา
จากกรณีเมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรอง ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้เดินทางไปยังสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ เพื่อรับตัวเหยื่อแก๊งค้ามนุษย์ที่ได้รับความช่วยเหลือจากเมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา
และ 1 ในนั้นมีหญิงไทยที่อ้างว่าถูกแก๊งค้ามนุษย์ชาวจีนในเมืองพระสีหนุ นำตัวไปบังคับถ่ายเลือดจำนวน 3 ถุง และยังถูกทำร้ายร่างกาย รวมทั้งถูกฉีดยาทำให้สลบ ก่อนได้รับการช่วยเหลือจนกลับสู่ประเทศไทย ซึ่งหลังข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความโหดร้ายของแก๊งดังกล่าว
จนทำให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. และ ผอ.ศพดส.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรอง ผอ.ศพดส.ตร. เร่งสอบสวนข้อเท็จจริง และได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.จว.ตราด และหัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็ว ศพดส.ตร. เร่งสืบหาข้อมูลนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 23.00 น.วานนี้ (18 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว น.ส.อารียา คมกระโทก อายุ 25 ปี หญิงไทยที่กุเรื่องว่าถูกลักพาตัวไปดูดเลือดขายในประเทศกัมพูชามาดำเนินคดีที่สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดสระแก้วในช่วงสายวันนี้ (19 มี.ค.)
หลังได้ดำเนินการซักถามและรวบรวมพยานหลักฐานประกอบคำให้การเพื่อหาข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนทราบว่า น.ส.อารียา คมกระโทก ได้เดินทางไปทำงานที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา พร้อมแฟนตั้งแต่ต้นปี 2564 ด้วยความสมัครใจ และได้ทำงานหลอกกลวงคนไทยให้ลงทุนในธุรกิจที่ไม่มีอยู่จริง ก่อนที่จะแยกย้ายกับแฟนไปทำงานอีกจุดหนึ่งในเมืองปอยเปต
แต่เมื่อเดือน ก.พ.2565 ที่ผ่านมา น.ส.อารียา ได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าไปช่วยเหลือแฟนจนสามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้สำเร็จ และเมื่อทราบว่าแฟนสาวได้รับความช่วยเหลือแล้วตนเองจึงตั้งใจจะเดิทางกลับประเทศไทยด้วย แต่เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับการช่วยเหลือในทันทีจึงสร้างเรื่องดังกล่าวขึ้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา แจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา โดยมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดสระแก้ว ได้ตัดสินจำคุกสาวคนดังกล่าวเป็นเวลา 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญาและให้นำตัวฝากขังเรือนจำในทันที
